ชาวจีนยกเลิกตั๋วเครื่องบินเกือบ 5 แสนที่นั่ง เหตุความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสองประเทศ
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80% 19 พ.ย. 68 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
11 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่เกษตรกรชาวนาใน อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร เรียกร้องทางราชการหามาตรการช่วยเหลือ และพยุงราคาให้สูงขึ้นนั้นว่า ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน 2562 เป็นต้นมาราคาข้าวเปลือกหอมมะลิมีราคาอ่อนตัวลง เนื่องจากเป็นช่วงที่ผลผลิตออกมากประกอบกับในหลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยแล้งอุทกภัย และโรคไหม้คอรวง โดยเฉพาะภาคเหนือตอนล่างส่งผลให้จำหน่ายได้ในราคาต่ำกว่าราคามาตรฐานทั่วไป ข้าวในแต่ละแปลงสุกไม่เสมอกัน มีความชื้นสูงต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการอบแห้งมากกว่าปกติ
อย่างไรก็ดี เพื่อรักษาเสถียรภาพราคาข้าว รัฐบาลได้ดำเนินมาตรการคู่ขนานกับการประกันรายได้ โดยเร่งให้มีการดูดซับผลผลิตส่วนเกินออกจากตลาด เป้าหมาย 6.5 ล้านตันและจูงใจให้เกษตรกรและสถาบันเกษตรกรเก็บข้าวไว้ในช่วงที่ผลผลิตออกสู่ตลาดมากช่วงเดือนพฤศจิกายน 2562-กุมภาพันธ์ 2563 โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2562 คณะกรรมการนโยบายและมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.)ได้มีมติเห็นชอบกรอบการขอใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 วงเงิน 2,572.5 ล้านบาทแล้ว
อธิบดีกรมการค้าภายในกล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนมาตรการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกษตรกรได้รับรายได้ให้สอดคล้องกับต้นทุนการผลิต โดยพิจารณาจากต้นทุนการผลิตข้าวเปลือกแต่ละชนิดของ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ บวกด้วยค่าขนส่งไปจำหน่ายและกำไรที่เหมาะสมซึ่งควรจะได้รับ เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยงให้เกษตรกรซึ่งเป็นราคาความชื้นไม่เกิน 15%ณ หน้าโรงสี ตามคุณภาพมาตรฐานเพื่อใช้กับเกษตรกรทั่วประเทศ โดยเป็นเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับกรมส่งเสริมการเกษตร โดยไม่คำนึงว่าจะปลูกเพื่อจำหน่าย บริโภค หรือทำพันธุ์ผลผลิตเสียหายหรือไม่ เก็บเกี่ยวจริงเมื่อใด ได้ผลผลิตมากน้อยเพียงใดก็จะได้สิทธิ์ตามที่ขึ้นทะเบียน แต่ไม่เกินที่โครงการกำหนด ทั้งนี้ การได้รับสิทธิของเกษตรกร กำหนดให้เกษตรกรได้รับสิทธิ์ในช่วงที่แจ้งวันเก็บเกี่ยวตามทะเบียนเกษตรกร การคำนวณเกณฑ์กลางอ้างอิงใช้ราคาเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วันทำการ จากแหล่งต่างๆ ดังนี้
1.ราคาขายส่งข้าวสารและผลิตภัณฑ์เฉลี่ยของกรมการค้าภายในและสมาคมโรงสีข้าวไทยคำนวณเป็นราคาข้าวเปลือก
2.ราคาข้าวเปลือกจากการสำรวจของกรมการค้าภายใน 3.ราคาข้าวเปลือกของสมาคมโรงสีข้าวไทย เช่น ในการประกาศราคางวดที่ 3 เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2562 ที่ผ่านมา เกษตรกรผู้ได้รับสิทธิ์คือ ผู้ที่แจ้งเก็บเกี่ยวในช่วงวันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2562 ซึ่งราคาข้าวเปลือกหอมมะลิเฉลี่ยย้อนหลัง 15 วันทำการ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่สูงกว่าราคาประกันรายได้
มีรายงานแจ้งว่าราคาเกณฑ์กลางข้าวเปลือกหอมมะลิกำหนดไว้ตันละ 15,000 บาท