ชาวจีนยกเลิกตั๋วเครื่องบินเกือบ 5 แสนที่นั่ง เหตุความตึงเครียดทางการทูตระหว่างสองประเทศ
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80% 19 พ.ย. 68 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
11 พฤศจิกายน 2568 10:11 น.
"รสนา" เสนอลดภาษีน้ำมัน 3 บาทต่อลิตร หวังราคาน้ำมันลดลงเป็นของขวัญประชาชน ขณะที่ภาษีน้ำมันเป็นรายได้หลักประเทศมีรายได้รวม 3 แสนล้านบาท/ปี วันนี้ (21 พ.ย.) คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม มีการประชุมนัดแรก ที่มีนายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เป็นประธาน มีตัวแทนผู้เชี่ยวชาญ ตัวแทนภาครัฐ ตัวแทนภาคประชาชนร่วมประชุมเป็นครั้งแรก โดยประเด็นแรกที่จะต้องหาข้อยุติโดยเร็ว เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่แก่ประชาชน คือโครงสร้างราคาน้ำมัน น.ส.รสนา โตสิตระกูล กรรมการฯ คาดหวังจะเห็นการลดราคา ทั้งรูปแบบลดภาษีสรรพสามิตลงครึ่งหนึ่งหรือ 3 บาท/ลิตร จากปัจจุบันอัตราภาษีกลุ่มดีเซลอยู่ที่ประมาณเกือบ 6 บาท/ลิตร การลดค่าการตลาดโดยไม่ควรเกิน 1.50 บาท/ลิตร และการลดราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมัน จากราคาอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ เป็นการอ้างอิงราคาส่งออกของไทย โดยอาจจะทำให้ราคาน้ำมันลดลงได้อีก 1 บาท/ลิตร "หากลดภาษีน้ำมันประชาชนทั่วประเทศจะได้ประโยชน์ ดีกว่าโครงการชิมช้อปใช้ที่ใช้ 160,000 ล้านบาทไปใช้ช่วยเหลือคนได้เพียง 5 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งปี 2561 รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตน้ำมันจำนวน 223,000 ล้านบาท" น.ส.รสนา กล่าว นายกุลิศ กล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือถึงแนวทางการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ประกอบด้วย ราคาหน้าโรงกลั่น ภาษีสรรพสามิต ค่าการตลาด ฯลฯ โดยเบื้องต้นมีข้อสรุปร่วมกันที่จะตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อหารือราคาหน้าโรงกลั่นก่อนวันที่ 28 พฤศจิกายนนี้ อย่างไรก็ตาม จะสามารถนำไปสู่การลดราคาขายปลีกน้ำมันในประเทศได้หรือไม่ ยังต้องหาข้อยุติร่วมกัน นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงานในฐานะคณะทำงานฯ เปิดเผยถึงประเด็นที่จะมีการหารือร่วมกัน ว่า แบ่งเป็น 2 เรื่องหลัก คือ 1. โครงสร้างราคาน้ำมัน และ 2. โครงสร้างราคาก๊าซ ซึ่งมีองค์ประกอบในการหารือ ประกอบด้วย ราคาหน้าโรงกลั่น ภาษี การเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงและกองทุนอนุรักษ์พลังงาน และค่าการตลาด ซึ่งจะหารือเพื่อเสนอแนะแนวทางการกำหนดโครงสร้างราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและก๊าซให้มีความเหมาะสมเป็นธรรมสอดคล้องกับภาวะตลาดน้ำมันของประเทศในปัจจุบันและเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าล่าสุดราคาน้ำมันสำเร็จรูปลดลงรวดเร็ว ทำให้ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (20 พ.ย. 62) ที่ 0.10 ดอลลาร์/บาร์เรล นับเป็นอัตราที่ต่ำมาก โดยปัจจุบันไทยใช้ราคาอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ เนื่องจากไทยเป็นผู้นำเข้าน้ำมันถึงร้อยละ 80 ขณะที่สิงคโปร์มีโรงกลั่นจำนวนมากและเป็นตลาดค้าน้ำมันใหญ่สุดในภูมิภาคนี้ ซึ่งการอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ ทำให้ไทยได้ประโยชน์ ขณะที่โรงกลั่นน้ำมันของไทยจะเป็นผู้รับภาระความเสี่ยงด้านราคาที่เกิดขึ้น ส่วนการส่งออกน้ำมันของไทยที่มีประมาณร้อยละ 15 ของกำลังผลิตประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันนั้น เป็นน้ำมันส่วนเกินความต้องการและสเปคไม่เป็นไปตามที่รัฐกำหนด ราคาที่ส่งออกจึงต้องต่ำเพื่อการแข่งขันในตลาด ส่วนภาษีน้ำมันนั้น ถือว่าเป็นรายได้หลักของประเทศ หากรวมทั้งภาษีสรรพสามิต ภาษีเทศบาล และภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว จะมีมูลค่ารวม 300,000 ล้านบาท/ปี.