สถานการณ์ต่างประเทศ

เศรษฐกิจสิงคโปร์เสี่ยงเข้าสู่ภาวะถดถอยในไตรมาสสามของปีนี้ เพราะผลกระทบจากสงครามการค้าจีน-สหรัฐที่ทำให้เศรษฐกิจไตรมาสสองของปีนี้ขยายตัวติดลบไปแล้วร้อยละ 3.3 สิงคโปร์เปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพี (GDP) วันนี้ว่า ไตรมาสสองของปีนี้ติดลบร้อยละ 3.3 ลดลงอย่างมากจากไตรมาสแรกปีนี้ที่ขยายตัวร้อยละ 3.8 ถือเป็นไตรมาสที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 7 ปี และหากเทียบกับปีก่อน จีดีพีไตรมาสสองของปีนี้ขยายตัวเพียงร้อยละ 0.1 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกปี 2551 ภาคที่ผลประกอบการแย่ที่สุดคือภาคการผลิต หดตัวร้อยละ 3.1 ภาคค้าปลีกและค้าส่ง หดตัวร้อยละ 3.2 ด้านนักเศรษฐศาสตร์ของบริษัทประกันโคเฟซมองว่า สิงคโปร์เป็นประเทศที่ชี้แนวโน้มของการค้าโลกชะลอตัว สถานการณ์ขณะนี้บ่งชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่สิงคโปร์จะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไตรมาสสามของปีนี้ ขณะที่กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมสิงคโปร์แถลงว่า จีดีพีที่ลดลงส่วนหนึ่งเป็นเพราะข้อพิพาทการค้าจีน-สหรัฐที่รุนแรงขึ้นในช่วงหลายเดือนมานี้ เศรษฐกิจจีนเองก็ขยายตัวต่ำที่สุดเหลือร้อยละ 6.2 ในไตรมาสสองของปีนี้ สอดคล้องกับของสิงคโปร์ นอกจากนี้การที่สหรัฐจะเก็บภาษีเพิ่มเติมกับสินค้าจีนอาจทำให้ความต้องการสินค้าจีนลดลงและส่งผลกระทบเชิงลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งภูมิภาคนี้ ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกรกฎาคมกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ปรับลดประมาณการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสิงคโปร์ปีนี้จากร้อยละ 2.3 เหลือร้อยละ 2.0 เท่านั้น