สถานการณ์ในประเทศ

     นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน(คน.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคมได้เห็นชอบกำหนดสินค้าและบริการ 52 รายการตามที่คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ(กกร.)เสนอ ซึ่งกลุ่มยา เวชภัณฑ์ และค่าบริการในโรงพยาบาล เป็นรายการที่เสนอให้เป็นสินค้าควบคุมและสามารถใช้มาตรการต่างๆในการดูแลกำชับเพื่อให้เป็นธรรมกับผู้บริโภค โดยมาตรการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการคือให้โรงพยาบาลเอกชน 353 แห่ง จัดส่งรายละเอียดราคายากลุ่มบัญชีเจ็บป่วยฉุกเฉินที่แต่ละโรงพยาบาลซื้อและขายและรายการยาที่จำหน่ายสูงสุด 100 รายการแรก รวมทั้งสิ้น 3,992 รายการมายังกรมการค้าภายในภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ซึ่งเดิมกำหนดให้จัดส่งภายใน 12 กรกฎาคม 2562 ทั้งนี้ ที่มีการขยายเวลาจัดส่งข้อมูลจากเดิมเพื่อให้ทางโรงพยาบาลเอกชนมีเวลาจัดทำข้อมูล ซึ่งขณะนี้มีโรงพยาบาลที่เพิ่งข้อมูลได้ครบถ้วนเพียง 20 แห่งจากทั้งหมด 353 แห่ง

      นายวิชัย กล่าวว่า หลังจากได้ข้อมูลจะทำมาเปรียบเทียบกับข้อมูลที่กรมมีอยู่และได้รับจากภาคเอกชนและภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ก่อนนำรายการยาทั้งหมดขึ้นเว็บไซต์ของกรม และจัดส่งให้โรงพยาบาลทำคิวอาร์โค้ดเพื่อให้ประชาชนและผู้ป่วยได้รับทราบข้อมูล โดยจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2562 ซึ่งข้อมูลที่ขึ้นเว็บไซต์และอยู่ในคิวอาร์โค้ดจะเป็นราคายาซื้อขายที่แต่ละโรงพยาบาลจัดส่งมาก และกรมได้เปรียบเทียบกับข้อมูลของกรมแล้วเห็นความไม่ได้เป็นการค้ากำไรเกินควร ซึ่งในแต่ละโรงพยาบาลจะมีการต้นทุนและราคาซื้อขายแตกต่างกัน เป็นการแสดงให้ผู้ป่วยได้มีทางเลือกในการตัดสินใจว่าจะรักษาที่ใดหรือหาซื้อยาในโรงพยาบาลหรือนอกโรงพยาบาล

      “โรงพยาบาลใดไม่มีการติดคิวอาร์โค้ด ถือว่าฝ่าฝืนกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในมาตราไม่แสดงราคาสินค้า มีโทษจำคุก 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมถึงปรับรายวัน 2,000 บาท จนกว่าจะดำเนินการได้ถูกต้อง ส่วนในเรื่องการแจ้งราคาค่าบริการจะเป็นสเต็บต่อไป เช่นเดียวกับการเพิ่มมาตรการคุมกำไรการค้า หากพบว่าโรงพยาบาลใดคิดราคายาและค่ารักษาแพงเกินจริงหลายร้อยหลายพันเท่า ซึ่งขณะนี้มีผู้ป่วยร้องเรียนเข้ามาต่อเนื่อง ประมาณ 20 ราย และในจำนวนนี้ 2-3 รายอยู่ระหว่างการตรวจสอบเชิงลึก จากที่ส่ง 1 กรณีแล้วให้ตำรวจดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย ส่วนใหญ่ที่ร้องเรียนเข้ามาจะเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในกรุงเทพฯ และเชื่อว่าหลังมีการระบุราคายาอาจมีประชาชนแสดงความสนใจและร้องเรียน “นายวิชัย กล่าว