สถานการณ์ในประเทศ

     นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงความคืบหน้าการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าให้สอดรับกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี) ว่า เมื่อเร็วๆนี้ ได้หารือกับผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านพลังงาน ได้แก่ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) การไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) ถึงแนวทางการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าในอนาคต ให้สอดรับกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ 20 ปี(พีดีพี2018)และรองรับทิศทางในอนาคต อาทิ การเข้ามาของพลังงานทดแทนที่มากขึ้น การผลิตไฟฟ้าใช้เอง การเชื่อมโยงซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาค รวมถึงการพัฒนาสู่สังคมดิจิทัลและบิ๊กดาต้า

      นายกุลิศกล่าวว่า โดยที่ประชุมได้มีการศึกษาถึงทิศทางความเปลี่ยนแปลงของระบบไฟฟ้าในโลก ตัวอย่างการพัฒนาของต่างประเทศ รวมถึงการดำเนินงานในปัจจุบัน และมีความเห็นสอดคล้องถึงการพัฒนาระบบโครงข่ายไฟฟ้าร่วมกันของทั้ง 3 การไฟฟ้าสู่ระบบที่ทันสมัยในทิศทางเดียวกันที่เหมาะสมกับประเทศไทย รองรับความเปลี่ยนแปลงของระบบไฟฟ้า ทั้งทางด้านการรองรับพลังงานทดแทนที่จะเข้ามาในระบบมากขึ้น บทบาทของไทยที่มากขึ้นในการเป็นจุดเชื่อมต่อด้านไฟฟ้าของภูมิภาค รวมถึงให้มีการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีความซ้ำซ้อน

      “การประชุมดังกล่าวจะเป็นจุดเริ่มต้นในการทำงานร่วมกันของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง โดยได้มีการมอบหมายให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานจัดทำกรอบในการหารือร่วมกันในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อไป”นายกุลิศกล่าว

      รายงานข่าวจากที่ประชุมแจ้งว่า ปัจจุบันการลงทุนระบบโครงข่ายไฟฟ้า โดยเฉพาะด้านสายส่งจะดำเนินการโดยกฟผ.เป็นหลัก วงเงินลงทุนรวมประมาณ 400,000-500,000 ล้านบาท และมีการลงทุนตลอดจนปรับปรุงประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งการประชุมนัดนี้ถือเป็นนัดแรก หลังจากนี้จะมีการลงลึกในรายละเอียด เพื่อจัดทำแผนดำเนินการร่วมกันให้สอดคล้องกับระบบไฟฟ้าของโลก คาดว่าทำให้การลงทุนลดความซ้ำซ้อนและลดต้นทุนดำเนินการลงได้แน่นอน