SMART NEWS

ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.

สถานการณ์ในประเทศ

นักลงทุนจีนพบนายกฯ เชื่อมั่นการเมืองไทย

views

     นักลงทุนจีนพบนายกรัฐมนตรี เชื่อมั่นการเมืองไทย หวังเดินหน้าลงทุนอีอีซี ต่างชาติเริ่มทยอยหารือหาช่องทางเข้ามาลงทุนในประเทศ มองไทยเป็นศูนย์กลางลงทุนสำคัญอาเซียน ขณะที่ “สมคิด” แนะคัดเลือกคนดี คนเก่ง หนุ่มสาวเข้ามาเป็น ครม.บริหารประเทศ

      นายลี้ ชี เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และผู้ว่าการมณฑลกวางตุ้ง เข้าหารือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทย เพื่อกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจร่วมกันระหว่างไทย-จีน การเดินทางมาครั้งนี้ได้นำกลุ่มนักธุรกิจชั้นนำจากมณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีนเกือบ 200 คน เข้ามาหาช่องทางการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และหวังส่งเสริมความร่วมมือระหว่างไทย-จีน เชื่อมโยงนโยบาย Belt and Road Initiative (BRI) เชื่อมกับภูมิภาค GBA (กวางตุ้ง-ฮ่องกง-มาเก๊า) กับอาเซียน และอีอีซีของไทย มณฑลกวางตุ้งเป็นเมืองการค้าและการส่งออกอันดับ 1 ของจีน มีการพัฒนารองรับอุตสาหกรรมสมัยใหม่ การใช้เทคโนโลยีชั้นสูงด้านวิทยาศาสตร์ โรงงานอุตสาหกรรมใช้หุ่นยนต์ผลิต การใช้ระบบไอที สื่อสารผ่านระบบ 5 จี เน้นการลงทุนวิจัยและพัฒนา (R&D) สูงที่สุดในจีน

      นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อนักลงทุนจีนมีความเชื่อมั่นต่อการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของไทย ขณะที่เอกชนของจีนเดินทางมาครั้งนี้นับว่าเป็นรายใหญ่เป็นดาวรุ่งของโลกจำนวนมาก แสดงให้เห็นความสำคัญของไทยในสายตาต่างชาติโดยเฉพาะจีน ซึ่งไม่เคยสอบถามเกี่ยวกับการเมืองของไทย เพราะเป็นพันธมิตรอันดีต่อกันมายาวนาน และมีความเชื่อมั่นต่อการเมืองไทย นับเป็นโอกาสอันดีของประเทศไทย รวมถึงประเทศอื่น เพราะเร็ว ๆ นี้ยังจะมีต่างชาติเข้ามาหารือเพิ่มเติม ทั้งรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ และญี่ปุ่นเตรียมเดินทางเข้ามาเจรจาเดินหน้าการลงทุนในประเทศเพิ่มเติม หลังจากนี้ทัพนักลงทุนต่างชาติจะทยอยเข้ามาติดต่อการลงทุนสูงมาก

      ขณะที่การจัดครั้งคณะรัฐมนตรีใหม่ เป็นหน้าที่โดยตรงของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการเลือกบุคคลเข้าดำรงตำแหน่ง จึงอยากให้แต่ละพรรคร่วมรัฐบาลส่งบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถ คนหนุ่มสาวไฟแรง เพื่อเลือกบุคคลที่ดีที่สุดเข้ามาเป็นรัฐมนตรีร่วมทำงาน ผู้ใหญ่เมื่ออายุมากควรเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษา และเมื่อได้นายกรัฐมนตรีคนเดิมสะท้อนความต่อเนื่องเชิงนโยบายโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ขณะนี้ทั้งจีน ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาต่างหันมาลงทุนในประเทศไทย จึงต้องแสดงให้เห็นว่าไทยมีศักยภาพมีเอกภาพ

      “เดือนหน้าผมอายุย่างเข้า 67 ปีแล้ว และยังมีปัญหาสุขภาพ ไม่ได้หวงตำแหน่งอะไร แต่หากต้องเข้าเป็นทีมเศรษฐกิจร่วมกับรัฐบาลชุดใหม่ ต้องดูว่าจะทำประโยชน์ได้อย่างไรบ้าง ไม่มีโควต้า ไม่ได้รับใช้ใคร มาทำเพื่อบ้านเมือง และการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ เพราะมองว่าท่านดูแลประเทศไทยได้ และประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่จุดที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ จึงอยากให้ทุกฝ่ายสามัคคีกัน และทุกพรรคต่างหวังดีต่อประเทศ มองว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร” นายสมคิด กล่าว

TW-headbar