SMART NEWS

“บลิงเคน” พบหารือ “หวัง อี้” ที่กรุงปักกิ่ง 26 เม.ย. 67 13:04 น.

สถานการณ์ในประเทศ

ธปท.รับสงครามการค้าฉุดเศรษฐกิจ - ส่งออก

views

     นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่าเศรษฐกิจมีแนวโน้มต่ำกว่าที่ประเมินไว้ เพราะสงครามการค้าจีนกับสหรัฐรุนแรงกว่าที่คาด ส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยและการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุน โดย ธปท.เตรียมปรับประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจลงจากปัจจุบันที่ 3.8% และการส่งออกจากปัจจุบันที่ 3% ภายในเดือนมิถุนายนนี้ นอกจากนี้ ยังมีความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศที่ยังเป็นปัจจัยกดดันต้องติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

      ด้านสถานการณ์ค่าเงินบาท ยอมรับว่าค่าเงินมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนสูง โดยมีปัจจัยจากภายนอกประเทศเป็นหลัก โดยเฉพาะสงครามการค้าสร้างความไม่แน่นอนส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์ ดัชนีหุ้น ตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งยืนยันว่าการบริหารจัดการอัตราแลกเปลี่ยนยังเป็นสิ่งจำเป็นที่ผู้ประกอบการและภาคธุรกิจจะต้องดำเนินการอย่างสม่ำเสมอ

      นอกจากนี้ ผู้ว่าฯ ธปท.ยังระบุถึงกรณีที่สถาบันการเงินปล่อยสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์เดือนเมษายนลดลงเพราะมาตรการควบคุมของ ธปท.ว่า เป็นเรื่องปกติเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงจะต้องมีผลกระทบ แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่สมเหตุสมผลและจะส่งผลดีในอนาคต เพราะจะสามารถลดความร้อนแรงในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไร อย่างไรก็ตาม ธปท.จะประเมินการดำเนินงานอีกครั้งว่ามีผลต่อภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างไร

      สำหรับกรณีที่สหรัฐเตรียมประกาศรายชื่อประเทศที่จะต้องเฝ้าระวังเรื่องการแทรกแซงค่าเงินเพิ่มขึ้นเป็น 20 - 25 ประเทศ จากปัจจุบัน 13 ประเทศนั้น ยืนยันว่าไทยไม่มีนโยบายแทรกแซงค่าเงิน เพื่อให้ได้ประโยชน์ทางการค้า แต่หากมีชื่อไทยติดอยู่ในประเทศที่ต้องเฝ้าจับตาเป็นพิเศษนั้น ย้ำว่าไม่ต้องตื่นตระหนก แม้ไทยมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ดุลการค้ากับสหรัฐ แต่ไม่ได้เป็นผลจากการแทรกแซงค่าเงินด้านการค้าแต่อย่างใด และยืนยันว่าหากมีรายชื่อติดอยู่จะไม่มีผลอะไรกับการดำเนินนโยบายทางการเงินแน่นอน

TW-headbar