ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
นายสุวัฒน์ เปี่ยมปัจจัย อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เปิดเผยว่าในปี 2562 กล่าวว่าตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ประกาศประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2562 โดยจะมีระยะเวลายาวนานไปถึงประมาณปลายเดือนพฤษภาคม ประกอบกับปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยที่ผ่านมามีค่าน้อยกว่าค่าปกติประมาณ 10% ส่งผลให้ปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่ 4 เขื่อนที่ประกอบด้วย เขื่อนอุบลรัตน์ เขื่อนสิรินธร เขื่อนทับเสลา เขื่อนกระเสียว ได้รับผลกระทบระดับกักเก็บน้ำต่ำกว่า 30 %
นอกจากนั้นพื้นที่เกษตรนอกเขตชลประทาน 119 ล้านไร่ก็ได้รับผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำในหลายพื้นที่ปัจจุบันกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประกาศเขตพิบัติ (ภัยแล้ง) แล้วจำนวน 5 จังหวัด 13 อำเภอ 39 ตำบล 287 หมู่บ้าน ในพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ด ศรีสะเกษ นครราชสีมา ตราด และชลบุรี ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำได้เตรียมการสร้างแหล่งน้ำต้นทุนที่เพียงพอเพื่อให้ประชาชนมีน้ำไว้ใช้ช่วงหน้าแล้งประกอบกับช่วงฤดูน้ำหลากแหล่งน้ำนั้นจะได้ทำหน้าที่กักเก็บน้ำ ชะลอการล้นเอ่อได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งมีระบบกระจายน้ำที่จะคอยส่งน้ำจากแหล่งกักเก็บมายังพื้นที่ของเกษตรกรหรือถังเก็บน้ำประปาเพื่อการอุปโภคบริโภคในครัวเรือนต่อไป
ทั้งนี้โดยตั้งแต่ปี 2557 มาจนถึงปัจจุบัน กรมทรัพยากรน้ำดำเนินโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำไปแล้ว 17,827 แห่ง ประชาชนได้รับประโยชน์กว่า 684,705 ครัวเรือน ในพื้นที่เกษตร 1,907,808 ไร่ โครงการระบบกระจายน้ำ จำนวน 751 แห่งทำให้ประชาชน 57,547 ครัวเรือน ในพื้นที่ 188,064 ไร่ได้รับประโยชน์
นายสุวัฒน์ กล่าวว่าในปี 2562 กรมทรัพยากรน้ำได้รับงบประมาณจัดทำโครงการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และพัฒนาแหล่งน้ำ จำนวน 273 โครงการ ได้ลงนามในสัญญาแล้ว 269 โครงการ ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จ 30 โครงการ และได้มีการติดตามเร่งรัดโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้กรมทรัพยากรน้ำได้ดำเนินการช่วยเหลือเพื่อบรรเทาสถานการณ์ภัยแล้ง ตั้งแต่ตุลาคม 2561 ถึงปัจจุบัน โดยการสูบน้ำเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุนจำนวน 27.414 ล้านลูกบาศก์เมตร แจกจ่ายน้ำ 4,253,000 ลิตร แจกจ่ายน้ำดื่มสะอาด 417,550 ลิตร น้ำดื่มบรรจุขวด 19,696 ขวด ประชาชนที่ได้รับประโยชน์ด้านการอุปโภคบริโภค 333,604 ครัวเรือน พื้นที่เกษตรกรรม 84,950 ไร่ ซึ่งมีเครื่องมือพร้อมช่วยผู้ประสบภัยประกอบด้วย รถบรรทุกจำนวน 63 คัน เครื่องสูบน้ำจำนวน 311 เครื่อง และเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญเหตุวิกฤตน้ำในพื้นที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1-11 จำนวนกว่า 171 คน พร้อมทั้งได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานอื่น อาทิ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น ในพื้นที่ที่ประสบปัญหาน้ำแล้ง ขาดน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร หากต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 1 – 11 หรือ โทร 1310 กด 5