สถานการณ์ต่างประเทศ

      ทางการศรีลังกาวางกำลังเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงเข้มข้นขึ้นที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจในกรุงโคลัมโบวันนี้ ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจพิสูจน์ศพผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุระเบิด เชื่อว่าเป็นฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายในประเทศขณะที่กลุ่มหัวรุนแรงรัฐอิสลามหรือไอเอส ออกมาอ้างว่าเป็นผู้ก่อเหตุ

      ครอบครัวและญาติผู้เคราะห์ร้ายเริ่มทยอยเดินทางมารับศพหลังได้รับแจ้งจากทางตำรวจ ประธานาธิบดีไมตรีปาละ สิริเสนาสั่งการให้กองทัพเข้าดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยในศรีลังกานับตั้งแต่วันอังคาร หลังจากเหตุระเบิดหลายระลอกที่โรงแรมและโบสถ์เมื่อวันอาทิตย์ ตำรวจรายงานเพิ่มยอดผู้เสียชีวิตเป็น 359 คนในวันนี้ นับเป็นเหตุโจมตีนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่สงครามการเมืองในศรีลังกาสิ้นสุดลงเมื่อปี 2552 รัฐบาลศรีลังกาต้องปิดช่องทางสื่อสารทางสังคมออนไลน์บางส่วน สั่งการให้กองกำลังรักษาความมั่นคงออกลาดตระเวนตามพื้นที่และใจกลางเมืองหลวง รวมทั้งประกาศเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านเวลากลางคืน

      ประธานาธิบดีสิริเสนาแถลงว่าเขาไม่ได้รับแจ้งเตือนจากหน่วยข่าวกรองล่วงหน้าว่าจะมีก่อการร้าย และหากทราบเขาจะดำเนินมาตรการรับมือในทันที ขณะที่มีรายงานว่าหน่วยข่าวกรองต่างประเทศได้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในศรีลังการวมทั้งนายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเหล่วงหน้าแล้ว ซึ่งกลายเป็นการกล่าวโทษกันไปมาท่ามกลางความขัดแย้งทางการเมืองที่มีอยู่เดิมระหว่างประธานาธิบดีสิริเสนากับนายวิกรมสิงเห

      ส่วนที่กลุ่มไอเอส ได้ออกมาอ้างว่า เป็นผู้ก่อเหตุโจมตีหลายระลอก ในศรีลังกา เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต ไปแล้วถึง 359 คน พร้อมทั้งระบุชื่อผุ้ก่อเหตุ 7 คน ที่อยู่เบื้องหลังการโจมตี ขณะที่เจ้าหน้าที่สอบสวนศรีลังกา เผยว่าผลการสอบเบื้องต้นชี้ว่า การโจมตีครั้งนี้มีขึ้น เพื่อตอบโต้เหตุโจมตีมัสยิด 2 แห่ง ในเมืองไครสเชิร์ช ของนิวซีแลนด์เมื่อเดือนที่แล้ว ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิต 50 คน โดยเชื่อว่า การโจมตีที่ศรีลังกา เป็นฝีมือของกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศชื่อตอฟีต จามาอัท และกำลังสอบสวนเพิ่มเติมว่า มีต่างชาติให้ความช่วยเหลือใดๆ หรือไม่ เนื่องจากเชื่อว่ากลุ่มหัวรุนแรงขนาดเล็กน่าจะไม่สามารถก่อเหตุได้เพียงลำพัง

      ด้านประธานาธิบดี ไมตรีพาลา สิริเสนา ของศรีลังกา ได้ให้คำมั่นว่า จะปรับโครงสร้างของกองกำลังรักษาความมั่นคงทั้ง ตำรวจ ทหาร และกระทรวงกลาโหม เร็วๆ นี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุทำนองนี้ขึ้นอีก พร้อมบอกว่า หากเขาทราบว่าทางสำนักงานข่าวกรองได้เตือนว่า อาจเกิดเหตุโจมตีขึ้น เขาคงจะได้ดำเนินการบางอย่างไปแล้ว อย่างไรก็ตามนางจาซินด้า อเดิร์น นายกรัฐมนตรีนิวซีแลนด์ กล่าวว่า รัฐบาลของเธอไม่ทราบข้อมูลข่าวกรองที่ว่าเหตุโจมตีในศรีลังกาเป็นการตอบโต้การโจมตีมัสยิด ที่เมืองไครสต์เชิร์ช.