ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยจัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 52 พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่ ในวันพุธที่ 24 เมษายน 2652 โดยนายกลินท์ สารสิน ได้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยต่ออีก 1 วาระ โดยมีวาระดำเนินงาน 2 ปี
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้จัดประชุมใหญ่สามัญสมาชิก ครั้งที่ 52 พร้อมเลือกตั้งคณะกรรมการชุดใหม่แทนคณะกรรมการรชุดเดิมที่หมดวาระลง โดยตนเองจะทำหน้าที่ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยต่ออีก 1 วาระ ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 24 ของ พ.ร.บ.หอการค้า พ.ศ.2509 ที่ให้ประธานกรรมการหอการค้าไทยเป็นประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยโดยตำแหน่ง สำหรับวาระปี 2562-2563 ของคณะกรรมการชุดนี้จะขับเคลื่อนแผนงานให้ต่อเนื่องกับชุดเดิม
สำหรับแนวนโยบายในการบริหารงานนั้น ได้กำหนดวิสัยทัศน์ในการดำเนินงาน คือ “เป็นสถาบันหลักทางการค้าและการบริการของประเทศ ที่ใช้ข้อมูล ความรู้ เครือข่าย และความร่วมมือ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และลดความเหลื่อมล้ำ ทำให้ประเทศไทยเติบโตอย่างยั่งยืน” โดยมี 5 พันธกิจหลัก ประกอบด้วย 1) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 2) เสริมสร้างเครือข่ายให้เข้มแข็ง 3) ดำเนินธุรกิจอย่างโปร่งใส 4) ต่อยอดความรู้และประสบการณ์ และ 5) การพัฒนาองค์กร
จากพันธกิจหลักดังกล่าว จะมีการยกระดับความสามารถทางการแข่งขันให้แก่สมาชิก และผู้ประกอบการท้องถิ่น
ทั้งนี้โดยมุ่งเน้น 3 Value Chains หลัก คือ การค้าและการลงทุน การเกษตรและอาหาร การท่องเที่ยวและบริการ โดยจะผลักดันการนำ Digital Technology และนวัตกรรม ผนวกกับความคิดสร้างสรรค์มาใช้ให้เกิดผลจริง ควบคู่กับการนำแนวคิด “ไทยเท่” เข้ามาเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจและช่วยกระจายรายได้สู่ท้องถิ่น ซึ่งจำเป็นต้องยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล พัฒนาการค้าและการบริการโดยใช้ Digital Platform และ Data Analytic Big Data ทั้งนี้จะมุ่งขยายความร่วมมือของเครือข่าย ทั้งหอการค้าจังหวัด สมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และ YEC รวมกว่า 100,000 ราย มาร่วมกันขับเคลื่อนเพื่อให้เกิด Synergy ระหว่างกัน และเกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ จะมีการจัดลำดับความสำคัญของแผนงาน และติดตามผลในรูปแบบของ Radar Chart
“คณะกรรมการชุดนี้ จะทำงานสานต่อจากแนวทางการทำงานในปัจจุบัน ที่มุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และการลดความเหลื่อมล้ำ โดยนำ Radar Chart มาจัดลำดับความสำคัญของแผนงานต่าง ๆ ที่จะขับเคลื่อนในปี 2562-2563 ซึ่งโครงการยุทธศาสตร์ (Strategic projects) ดังกล่าวจะแยกเป็น 3 ประเภท คือ โครงการที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทยดำเนินการเอง โครงการที่ร่วมดำเนินการกับภาครัฐ และโครงการที่จะติดตามผลักดันให้ภาครัฐดำเนินการ ซึ่งจะทำงานแบบลงลึกในแต่ละด้าน ตลอดทั้ง Value Chain โดยการใช้ความรู้และประสบการณ์ของเครือข่ายให้เกิดประโยชน์สูงสุด เชื่อมโยงระหว่างเครือข่ายสมาคมการค้า หอการค้าต่างประเทศ รวมถึงมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งมีความรู้ความชำนาญ (Functional Base) กับทางหอการค้าจังหวัด ซึ่งมีความเข้าใจในพื้นที่ (Area Base) พร้อมทั้งนำผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของหอการค้า (YEC) เข้ามาเสริมแนวคิดของคนรุ่นใหม่ เพื่อการพัฒนาธุรกิจและประเทศได้ อย่างรอบด้าน” นายกลินท์ กล่าว
สำหรับผลการดำเนินงานและกิจกรรมสำคัญที่ผ่านมา ได้เชื่อมโยงเครือข่ายของภาครัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจต่าง ๆ จนเกิดผลสำเร็จ ดังเช่น โครงการ Tourism Digital Platform (TAGTHAI) การจัดตั้งสถาบันที่ปรึกษาอัจฉริยะการค้าและการลงทุน (AITI) ยุทธศาสตร์ผลไม้ไทยครบวงจร โครงการคืนภาษี Downtown Vat Refund การเสริมศักยภาพผู้ประกอบการผ่านโครงการ Big Brother โครงการไทยเท่ทั่วไทย การจัดงานหอการค้าแฟร์ การจัดทำดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจตัวใหม่ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทย ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการค้าปลีก และดัชนีภาคบริการ รวมไปถึงโครงการลดความเหลื่อมล้ำต่าง ๆ เช่น 1 ไร่ 1 แสน, 1 หอการค้าดูแล 1 ท่องเที่ยวชุมชน, 1 หอการค้าดูแล 1 สหกรณ์การเกษตร เป็นต้น
ทั้งนี้ คณะกรรมการชุดใหม่นี้ จะมีการ workshop ในวันที่ 26-27 เมษายนนี้ เพื่อหารือสิ่งที่ได้ดำเนินการมาแล้ว และทบทวนโครงการยุทธศาสตร์ รวมทั้งจัดทำข้อเสนอแนวทางการขับเคลื่อนแผนงานที่จะเป็นประโยชน์ต่อสมาชิก เศรษฐกิจ และสังคมของประเทศ อย่างยั่งยืน