SMART NEWS

ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.

สถานการณ์ในประเทศ

"สมคิด" สั่งเอสเอ็มอีแบงก์อัดฉีดเงินหนุนเอสเอ็มอี

views

“สมคิด” พบเศรษฐกิจไทยหลังเลือกตั้งนิ่ง สั่ง ขรก.กระทรวงอุตฯ ทำงานเต็มที่พร้อมทำงานกับรัฐบาลใหม่ และสั่งการให้เอสเอ็มอีแบงก์อัดฉีดเงินหนุนเอสเอ็มอีในช่วง 3 เดือนนี้      นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ตรวจเยี่ยมกระทรวงอุตสาหกรรม โดยระบุว่าหลังจากเลือกตั้งพบว่าภาพรวมเศรษฐกิจนิ่งลักษณะ “Sleeping Beauty” โตลดลงเหลือกว่าร้อยละ 3 จากที่เติบโตระดับร้อยละ 4 ซึ่งไม่ต้องการให้เศรษฐกิจเติบโตชะลอลง ดังนั้น จึงขอให้ข้าราชการกระทรวงอุตสาหกรรม เดินหน้าทำงานอย่างต่อเนื่องแม้อยู่ในช่วงรอยต่อการเปลี่ยนผ่านรัฐบาลปัจจุบันไปสู่รัฐบาลใหม่ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการโดยเฉพาะเอสเอ็มอีและธุรกิจสตาร์ทอัพเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่องไม่สะดุด

     นายสมคิด ยังได้ขอให้ธนาคารเพื่อการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) จัดทำมาตรการอัดฉีดเงินให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีภายใน 3 เดือนนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมที่จะเดินหน้าใหม่ต่อทันทีที่รัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารประเทศ พร้อมกันนี้ขอให้เดินหน้ากระบวนการเปลี่ยนผ่านภาคอุตสาหกรรมไทยสู่ยุคดิจิทัล ตามนโยบายประเทศไทย 4.0 โดยสั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดทำมาตรการแบบครบวงจรเชิงบังคับและจูงใจภาคเอกชนไทยให้มีนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาใช้ในการทำธุรกิจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น IoT , Big Data และการจัดทำบัญชีเดียว เป็นต้น และนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป เพราะหากไม่ทำผู้ประกอบการไทยจะไม่สามารถแข่งขันได้

     นอกจากนี้ ยังขอให้เดินหน้าเตรียมความพร้อมของบริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด ที่จะทำหน้าที่พัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอีและธุรกิจสตาร์ทอัพ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม วางรูปแบบการทำงานกับพันธมิตรภาครัฐ ภาคเอกชน และพันธมิตรต่างประเทศ พร้อมมีคณะผู้บริหารบริษัทภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ก่อนรัฐบาลใหม่จะเข้ามาบริหารประเทศและต้องพร้อมขอรับการจัดสรรงบประมาณปี 2563

     ด้านการสร้างมาตรฐาน ยกระดับ ปรับทักษะบุคลากร ให้รองรับระบบเศรษฐกิจ 4.0 นายสมคิด ได้เน้นย้ำให้การทำงานบูรณาการกับภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันการศึกษาและกระทรวงแรงงาน โดยดำเนินการภายใต้โครงการส่งเสริมการปฏิรูป SMEs สู่ 4.0 ด้วย Industrial Transformation Platform ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมอยู่ระหว่างขอการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมรวม 8,629 ล้านบาท

    ด้านลดปัญหาฝุ่นละออง P.M.2.5 โดยเฉพาะฝุ่นละอองจากอ้อยไฟไหม้ เพราะชาวไร่อ้อยใช้วิธีเผาไร่อ้อยในกระบวนการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่เป็นปัญหาสืบเนื่องจากหลายปัจจัยทั้งการขาดแคลนแรงงานและปัจจัยอื่น ๆ โดยนายสมคิด ได้ย้ำให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) เดินหน้ามาตรการลดการเผาอ้อยให้ได้ตามกรอบระยะเวลา 3 ปีนับจากนี้ไปภายใต้งบประมาณช่วยเหลือ 2,000 ล้านบาทในรูปแบบสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำแก่ชาวไร่อ้อย

     สำหรับอุตสาหกรรมเกษตรขอให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรมนำรูปแบบอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูป เพื่อช่วยเพิ่มมูลค่าผลผลิต โดยให้เน้นไปยังกลุ่มผักและผลไม้ ซึ่งประเทศไทยมีแหล่งผลิตสำคัญในภาคตะวันออกและภาคใต้ที่จังหวัดชุมพร โดยจะต้องดำเนินการให้มีห้องเย็น นอกจากนี้ ยังมอบหมายให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)เตรียมพร้อมรองรับการเข้ามาลงทุนของนักลงทุน โดยให้ กนอ.ก้าวสู่ยุค กนอ. 4.0 เพื่อให้สามารถตอบรับการเข้ามาลงทุนได้สะดวกง่าย ซึ่งตัวอย่างของธุรกิจนี้เห็นได้จากบริษัท WHA ส่วนโครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 ขอให้ดำเนินการด้วยดีมีการต่อรองที่เหมาะสมไม่ให้เป็นที่ครหา เพราะจะนำเป็นโครงการตัวอย่างในการเดินทางไปพบปะกับนักลงทุนจีนต่อไป ส่วนโครงการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ SEZ ที่นิคมสระแก้ว ตาก สงขลา และนราธิวาส จะต้องพิจารณาว่าจะให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมอุตสาหกรรมชีวภาพ และต้องมีพื้นที่รองรับสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพโดยจัดทำในแผนระยะ 5 ปีข้างหน้าเอาไว้ด้วย

     นายสมชาย หาญหิรัญ รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ได้รับมอบหมายจากให้ช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ดังนั้น กระทรวงอุตสาหกรรมจึงเตรียมโอนเงินกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวทางประชารัฐจากส่วนที่เอสเอ็มอีรายใหญ่ขอยกเลิกการใช้วงเงิน 2,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีขนาดเล็กที่มีวงเงินกู้จากเอสเอ็มอีแบงก์อยู่แล้วรายละไม่เกิน 1 ล้านบาท เช่น มียอดเงินกู้รายละประมาณ 500,000-700,000 บาท ก็จะได้รับการพิจารณาช่วยเหลือต่อไป นอกจากนี้ มีแนวคิดที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อนำเงินที่ได้รับการชำระคืนเงินกู้กว่า 970 ล้านบาท มาพิจารณาจัดสรรปล่อยกู้เพิ่มให้กับเอสเอ็มอีขนาดเล็ก .

TW-headbar