สถานการณ์ในประเทศ

     นายลวรณ แสงสนิท ผู้อํานวยการสํานักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2562 (ตุลาคม 2561 – กุมภาพันธ์2562) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ จํานวน 986,000 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 75,568 ล้านบาท หรือ 8.3% โดยมีสาเหตุสําคัญจาก การจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพากรเพิ่มขึ้นจํานวน 52,881 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 8.3% การนําส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น 22,054 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34.2% และการจัดเก็บรายได้ของกรมสรรพสามิตเพิ่มขึ้น16,222 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.4%

     นายลวรณกล่าวว่า เมื่อเปรียบเทียบกับคาดการณ์รายได้รัฐบาลสุทธิที่กระทรวงการคลังได้จัดทําสําหรับ การติดตาม และประเมินสถานการณ์ การจัดเก็บรายได้ โดยพิจารณาจากสถานการณ์เศรษฐกิจและตัวแปรที่ส่งผลต่อการจัดเก็บรายได้รัฐบาลพบว่า ในช่วง 5 เดือนแรก การจัดเก็บรายได้รัฐบาลสุทธิยังคงสูงกว่าคาดการณ์จํานวน 22,476 ล้านบาท หรือ 2.3% โดยการจัดเก็บรายได้ทุกหน่วยงานเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ยกเว้นการจัดเก็บรายได้ของ กรมศุลกากร ต่ำกว่าคาดการณ์ 1,057 ล้านบาท หรือต่ำกว่าคาดการณ์ 2.2% ส่วนการนําส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจทำได้ 86,614 ล้านบาท ที่ต่ำกว่าคาดการณ์เล็กน้อย 1,071 ล้านบาท หรือต่ำกว่าคาดการณ์ 1.2% เนื่องจากอัตราการขยายตัวของมูลค่า การนําเข้าต่ำกว่าที่คาดการณ์ และมีการเลื่อนการนําส่งรายได้ของรัฐวิสาหกิจบางแห่งออกไป อย่างไรก็ตามกรมศุลกากรยังสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 3,929 ล้านบาท หรือ 9.3% ส่วนรัฐวิสาหกิจจัดเก็บรายได้สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 14,222 ล้านบาท หรือ 19.6% ตามลําดับ

     “หากดูการเก็บรายได้ของกรมภาษีพบว่าสามารถจัดเก็บรายได้ 971,232 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 7.7% และเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ 1.3% โดยกรมสรรพากรเก็บรายได้ 688,566 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 8.3% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1.3% เมื่อเทียบกับคาดการณ์ ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บรายได้ 236,537 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 7.4% และเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ 1.7% ส่วนกรมศุลกากรจัดเก็บได้ 46,129 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 0.1% แต่ต่ำกว่าคาดการณ์ 2.2%”นายลวรณกล่าว