ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมนี้ อัตราภาษีสรรพสามิตความหวานจะเก็บเพิ่มขึ้นตามขั้นบันได ทำให้เครื่องดื่มที่มีความหวานเกินกำหนดจะต้องเสียภาษีมากขึ้น เช่น น้ำอัดลมกระป๋องขนาด 250 ซีซี ต้องเสียภาษีเพิ่มประมาณ 10 สตางค์ ส่วนการปรับเพิ่มราคาขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ทางการตลาด ทั้งนี้ ปัจจุบันกรมสรรพสามิตเก็บภาษีความหวานเฉลี่ยอยู่ที่ 1 บาท/ลิตร หลังจากวันที่ 1 ตุลาคม 2562-30กันยายน 2564 จะเก็บ 3 บาท/ลิตร หลังจากนั้นจะปรับเพิ่มสูงสุด 5 บาท/ลิตร ปัจจุบันน้ำอัดลมบางส่วนปรับลดน้ำตาลจาก 14 กรัม/ลิตร เหลือ 12 กรัม/ลิตร เพื่อเสียภาษีให้ต่ำลง ส่วนน้ำอัดลมสีดำยังไม่เปลี่ยนแปลงสูตร เพราะยังเป็นตลาดใหญ่ของผู้บริโภค สำหรับกฎหมายสรรพสามิตที่ประกาศใช้เมื่อปี 2560 ได้มีการแก้ไขให้เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของพืชทางการเกษตรไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ได้รับยกเว้นภาษีสรรพสามิตเป็นไม่ต่ำกว่าร้อยละ 20% ถึงจะได้ลดภาษีเพื่อให้มีการช่วยเหลือเกษตรกรอย่างแท้จริงมากขึ้น สำหรับกฎกระทรวงกำหนด พิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตความหวาน กำหนดว่า ตั้งแต่กฎหมายสรรพสามิตมีผลบังคับใช้วันที่ 16 กันยายน 2560 ถึง 30 กันยายน 2562 1.เครื่องดื่มที่มีปริมาณน้ำตาล ไม่เกิน 6 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร ยกเว้นการเก็บภาษี 2.ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 6 กรัม แต่ไม่เกิน 8 กรัม ต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 0.10 บาทต่อลิตร3.ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 8 กรัมแต่ไม่เกิน 10 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 0.30 บาทต่อลิตร 4.ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน 10 กรัม แต่ไม่เกิน 14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 0.50 บาทต่อลิตร และ 5.ที่มีปริมาณน้ำตาลเกิน14 กรัมต่อ 100 มิลลิลิตร เสียภาษี 1 บาทต่อลิตร และจะมีการขยับภาษีขึ้นอีกครั้งในวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30กันยายน 2564 ก่อนจะมีการปรับอัตราภาษีอีกเป็นขั้นสุดท้าย ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 เป็นต้นไป