ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเยือนประเทศเนเธอร์แลนด์อย่างเป็นทางการตามคำเชิญของกระทรวงต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ ให้สัมภาษณ์หลังหารือกับนายสแต็ฟ โบลก รัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ว่า การหารือระหว่างกันเป็นไปด้วยดีและได้ประโยชน์อย่างมาก ไทยและเนเธอร์แลนด์มีความสัมพันธ์ระหว่างกันยาวนานถึง 415 ปีเป็นรองเพียงแต่ประเทศโปรตุเกสที่มีความสัมพันธ์ระหว่างกันยาวนานถึงกว่า 500 ปีเท่านั้น ความร่วมมือระหว่างไทยเนเธอร์แลนด์มีหลายด้านโดยเฉพาะด้านธุรกิจ ซึ่งบริษัทชั้นนำของเนเธอร์แลนด์ส่วนใหญ่ต่างมีกิจการในประเทศไทย อาทิ ยูนิลิเวอร์ เชลล์ ไอเอ็นจี และไฮเนเก้น นายดอนกล่าวว่า จากตัวเลขการลงทุนในปี 2560 ประเทศในสหภาพยุโรป 28 ประเทศ เนเธอร์แลนด์มีการลงทุนในไทยมากที่สุด ชาวเนเธอร์แลนด์เดินทางมายังประเทศไทยถึงปีละ 280,000 คน ขณะที่คนไทยเดินทางไปนิวซีแลนด์ประมาณปีละ 35,000 คน ปัจจุบันไทยได้ดุลการค้ากับเนเธอร์แลนด์แต่สามารถเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างกันได้ไม่ยาก หากเราให้ความสนใจต่อกันมากกว่าที่เป็นอยู่ก็จะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้น นายดอนกล่าวว่า ทั้งสองฝ่ายเห็นควรให้มีการจัดการหารือเป็นประจำในระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสระหว่างกันต่อไป หลังจากที่เคยมีในอดีตหยุดชะงักไป เนื่องจากขณะนี้เห็นว่าเป็นประโยชน์ที่ทั้ง 2 ประเทศจะกลับมามีความสัมพันธ์ระหว่างกันให้ใกล้ชิดมากขึ้นจากที่มีอยู่แล้วในหลายมิติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทั้งสองฝ่ายที่ถือเป็นหัวใจของการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างกัน นายดอนกล่าวอีกว่า ได้มีการหารือถึงความร่วมมือหลายด้านที่จะเป็นประโยชน์ระหว่างกัน อาทิ ความร่วมมือด้านการบริหารจัดการน้ำ เทคโนโลยีทางด้านการเกษตร รวมถึงการชักชวนให้เนเธอร์แลนด์มาลงทุนในโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก(อีอีซี)ซึ่งถือเป็นเมกกะโปรเจ็คของไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวด้วยว่า สำหรับประเด็นในภูมิภาค เนเธอร์แลนด์สนใจสิ่งที่เกิดขึ้นในเมียนมา และตั้งความหวังว่าจะเห็นประเด็นปัญหาโรฮีนจาคลี่คลายและสิ้นสุดลง โดยตนยังได้เชิญชวนให้ทางเนเธอร์แลนด์มาเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาภายใต้กรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง(แอคเมคส์)อีกด้วย “ระหว่างการหารือผมได้มีการพูดถึงประเด็นการเลือกตั้งทั่วไปในไทย พระราชพิธีราชาภิเษก และการเป็นประธานอาเซียนของไทย ซึ่งได้ให้ข้อมูลไปตามข้อเท็จจริง ฝ่ายเนเธอร์แลนด์รับทราบแต่ไม่ได้มีคำถามอะไรทั้งสิ้น เขาไม่ได้ติดใจหรือสนใจในรายละเอียดอะไรเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพราะรับทราบอยู่แล้วว่ากระบวนการต่างๆ กำลังดำเนินไปตามขั้นตอน และเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่ไทยกำลังจะมีการจัดการเลือกตั้งทั่วไป”นายดอนกล่าว ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่ารัฐมนตรีต่างประเทศเนเธอร์แลนด์ยังได้ทวีตข้อความถึงการเยือนเนเธอร์แลนด์ของนายดอนว่า การหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศไทยเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างกันมีผลลัพธ์ที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง เนเธอร์แลนด์ให้การสนับสนุนประเทศไทยในการกลับสู่การปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตย เราตั้งตารอการเลือกตั้งที่เป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรมภายใต้การมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายที่จะเกิดขึ้นในเดือนมีนาคมนี้