สถานการณ์ต่างประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ เปิดการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภา (State of the Union) ด้วยการยื่นไมตรีขอให้พรรคเดโมแครตทำงานร่วมกับพรรครีพับลิกันโดยไม่แยกเป็นสองพรรคแต่เป็นหนึ่งประเทศ พร้อมประกาศจัดประชุมสุดยอดรอบ 2 กับ นายคิม จอง อึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่เวียดนามปลายเดือนนี้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ แถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) เมื่อเวลา 21.30- 22.30 น. วันอังคารที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับ 09.30-10.00 น. วันพุธ ตามเวลาในบ้านเรา ต่อหน้าที่ประชุมร่วม 2 สภา ในรัฐสภาคองเกรสของสหรัฐ ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภาครั้งที่สอง นับตั้งแต่ดำรงตำแหน่งในเดือนมกราคม 2560 ประธานาธิบดีทรัมป์ขอให้ทั้งสองพรรคร่วมมือกันเรื่องการจ้างงาน การค้า โครงสร้างพื้นฐาน การดูแลสุขภาพ คนเข้าเมืองและนโยบายต่างประเทศ ยุติการแก้แค้นต่อต้านทางการเมือง ทำลายภาวะทางตันทางการเมืองที่ดำเนินมาหลายทศวรรษ การได้ชัยชนะไม่ใช่เพื่อพรรคแต่เพื่อประเทศ ระหว่างนั้นสมาชิกสภาพรรคเดโมแครตจำนวนมากรวมทั้งนางแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรที่นัดกันแต่งชุดขาวพากันลุกขึ้นยืนปรบมือให้แก่ทรัมป์ อย่างไรก็ดี นางเปโลซีส่ายศีรษะเมื่อทรัมป์ตำหนิที่พรรคเดโมแครตเปิดการสอบสวนในหลายเรื่องและขอให้ยุติ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวถึงแขกรับเชิญ 3 คน ที่เขาเชิญมาร่วมฟังการแถลงทั้งหมด 13 คน คนแรกคือ นายบัซ อัลดริน หนึ่งในคณะนักบินอวกาศยานอะพอลโล 11 ว่า ปีนี้สหรัฐจะฉลองครบ 50 ปีที่ยานอะพอลโล 11 นำธงชาติอเมริกันไปปักบนดวงจันทร์สำเร็จ ปีนี้นักบินอวกาศจะทะยานขึ้นสู่อวกาศด้วยจรวดของอเมริกันอีกครั้ง คนที่สองคือ นางอลิซ จอห์นสัน อดีตนักโทษคดียาเสพติดที่เขาลดหย่อนโทษจำคุก 21 ปี ให้เมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน และคนที่สามคือ ด.ญ.เกรซ เอลีน วัย 10 ขวบ ที่ชวนเพื่อนบริจาคเงินให้โรงพยาบาลเด็กตั้งแต่อายุ 4 ขวบ จนกระทั่งตัวเองป่วยเป็นมะเร็งสมองเมื่อปีก่อน และรับการรักษาจนหายดี ประธานาธิบดีทรัมป์ขอให้สภาผ่านกฎหมายเพื่อรับมือกับสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นวิกฤติเร่งด่วนแห่งชาติที่พรมแดนทางใต้ของประเทศ สภาจะต้องทำให้โลกเห็นว่า สหรัฐมุ่งมั่นยุติการลอบเข้าเมือง ทำให้แก๊งนักล่า นักค้ายาเสพติด และนักค้ามนุษย์ไม่สามารถทำมาหากินได้อีกต่อไป ที่ผ่านมาสมาชิกสภาหลายคนลงมติให้สร้างกำแพงแต่ก็ไม่เป็นรูปเป็นร่างเสียที เขาจะทำให้กำแพงเกิดขึ้นให้ได้ ส่วนในประเด็นด้านต่างประเทศ ทรัมป์กล่าวหาจีนโจมตีเป้าหมายอุตสาหกรรมต่างๆ ในสหรัฐ และขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐมานานหลายปี ประธานาธิบดีทรัมป์ยังได้ใช้เวทีนี้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า จะประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สองกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือที่เวียดนามวันที่ 27-28 กุมภาพันธ์นี้ ทรัมป์กล่าวด้วยว่า ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนายคิม จองอึนอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ยังมีงานอีกมากที่จะต้องทำ พร้อมกับอ้างความดีความชอบว่า หากเขาไม่ได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ ป่านนี้ สหรัฐคงทำสงครามกับเกาหลีเหนือไปแล้ว และคงจะต้องมีคนหลายล้านคนที่ต้องเสียชีวิต