สถานการณ์ต่างประเทศ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอากาศหนาวเย็นจนเป็นน้ำแข็งและอุณหภูมิติดลบในแถบมิดเวสต์ของสหรัฐ ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นอย่างน้อย 12 เมื่อวันพุธ ขณะที่ต้องระงับการส่งพัสดุและผู้อยู่อาศัยที่เคยชินกับสภาพอากาศหนาวจัดต้องเก็บตัวอยู่ในบ้านแทน โดยเจ้าหน้าที่และสื่อสหรัฐรายงานว่า มีผู้เสียชีวิตเนื่องจากสภาพอากาศหนาวอย่างน้อย 12 คนนับตั้งแต่วันเสาร์ที่รัฐมิชิแกน ไอโอวา อินดีแอนา อิลลินอยส์ วิสคอนซิน และมินนิโซตา ประชาชนในเมืองมินนีแอโพลิสเกือบ 7,000 คนประสบปัญหาไฟดับ ลมหนาวทางเขตนอร์ทเพลนส์และเกรตเลคส์ ทำให้อุณหภูมิรัฐมินนิโซตาดิ่งหนักจนติดลบ 41 องศาเซลเซียส และนอร์ทดาโคตาลบ 35 องศา หนาวกว่าขั้วโลกใต้ ชาวบ้านต้องอยู่แต่ภายในบ้านเรือน ร้านค้าหลายแห่งปิดทำการ ถนนหลายสายว่างเปล่า ขณะที่ลมหนาวยะเยือกเริ่มกระหน่ำเข้ามาทางเขตอีสต์โคสต์ของสหรัฐค่ำวันพุธทำให้อากาศเย็นลงอีก เจ้าหน้าที่ได้เปิดศูนย์พักพิงเพื่อให้ความอบอุ่นทั่วมิดเวสต์ สถานีตำรวจชิคาโกเปิดให้ประชาชนมาพักรอช่วงอากาศหนาวเย็น รถบัสให้บริการเป็นที่พักทำความอบอุ่นสำหรับคนไร้บ้าน โดยมีตำรวจคอยแจกหมวก เสื้อคลุม และผ้าห่ม ด้านทางการแคนาดารายงานว่า อุณหภูมิช่วงข้ามคืนที่ผ่านมาในรัฐออนแทรีโอซึ่งรวมถึงเขตเกรทเตอร์โตรอนโต แอเรีย จะลดลงจนถึงติดลบ 20 องศา โดยมีลมกระโชกสูงสุด 70 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ประกาศเตือนอากาศหนาวมีขึ้นภายหลังจากหิมะตกหนักปกคลุมเมืองเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ทัศนวิสัยไม่ดีและหิมะตกสะสมทำให้การจราจรชะลอตัวในหลายพื้นที่ เกิดความล่าช้า และต้องยกเลิกบริการรถโดยสารหลายเที่ยว พายุหิมะทำให้ต้องปิดโรงเรียนประถมและมหาวิทยาลัยส่วนหนึ่งเมื่อวันอังคาร และยกเลิกเที่ยวบินที่ท่าอากาศยานระหว่างประเทศโทรอนโตเพียร์สันเมื่อค่ำวันจันทร์ คาดว่าสภาพอากาศหนาวจัดจะเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนถึงเช้าวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น