สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ระบุพร้อมเจรจากับพรรคฝ่ายค้านโดยมีตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศเข้าร่วม และอ้างว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ สั่งรัฐบาลและมาเฟียโคลอมเบียลอบสังหารเขา ขณะที่ศาลสูงสุดของเวเนซุเอลามีคำสั่งห้ามนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านที่ประกาศตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาล เดินทางออกนอกประเทศและสั่งอายัดบัญชีเงินฝากของเขาด้วย ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลาระบุว่า เขาพร้อมเจรจากับพรรคฝ่ายค้านโดยมีตัวกลางไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศเข้าร่วมเพื่อประ โยชน์ของชาวเวเนซุเอลา รวมถึงความสงบสุขและอนาคตของชาติ โดยนายมาดูโรกล่าวเสริมว่ากำลังมีการเจรจาเรื่องการไกล่เกลี่ยระหว่างประเทศที่เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ เขายังปฏิเสธกรณีสหภาพยุโรป หรือ อียู ยื่นคำขาดให้จัดการเลือกตั้งประธานาธิบดีขึ้นใหม่ในเวเนซุเอลาภายใน 8 วัน โดยบอกว่าการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2568 และประณามข้อเรียกร้องของอียูว่าเป็นการไร้มารยาทอย่างที่สุด ซึ่งอียูควรยกเลิกคำขาดดังกล่าว เพราะไม่มีใครจะมายื่นคำขาดกับเวเนซุเอลาได้และเวเนซุเอลาก็ไม่ได้ผูกติดอยู่กับยุโรปด้วย ก่อนหน้านี้ ทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศสและสเปนระบุว่าจะให้การยอมรับนายฮวน ไกวโด ผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่ประกาศตั้งตัวเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซุเอลา หากไม่มีการเลือกตั้งใหม่ นอกจากนี้ นายมาดูโรยังอ้างด้วยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐได้สั่งการให้รัฐบาลและพวกมาเฟียโคลอมเบียลอบสังหารเขา ซึ่งหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ทั้งนายทรัมป์และประธานาธิบดีอีวาน ดูเก ของโคลอมเบียจะต้องรับผิดชอบ แต่นายมาดูโรแสดงความเชื่อมั่นในการรักษาความปลอดภัยในประเทศ ขณะเดียวกัน ประธานศาลสูงของเวเนซุเอลากล่าวว่า นายไกวโด ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติวัย 35 ปี ถูกสั่งห้ามเดินทางออกนอกประเทศจนกว่าการสอบสวนในเบื้องต้นจะเสร็จสิ้น และสั่งอายัดบัญชีเงินฝากของเขาด้วย โดยเขาถูกสอบสวนในข้อกล่าวหาที่ว่า ทำให้เกิดความไม่สงบสุขขึ้นในประเทศ ด้วยการช่วยให้ต่างชาติเข้ามาแทรกแซงกิจการภายในของประเทศ นายไกวโดเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทำให้เขามีเอกสิทธิ์คุ้มครองไม่ถูกดำเนินคดียกเว้นศาลสูงจะเป็นผู้ออกคำสั่ง แต่สมาชิก 32 คน ของศาลสูงสุดเป็นฝ่ายสนับสนุนประธานาธิบดีมาดูโร และรีบดำเนินการอย่างรวดเร็วในการสั่งให้สอบสวนนายไกวโด ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลของนายมาดูโรดังกล่าว เห็นได้ชัดว่าเป็นการตอบโต้สหรัฐ ที่นอกจากจะสนับสนุนนายไกวโดแล้ว ยังสั่งคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของเวเนซุเอลา ทำให้บริษัทพีดีวีเอสเอ ซึ่งเป็นของรัฐบาลไม่สามารถดำเนินการตามสัญญาในการจัดส่งน้ำมันให้กับผู้ซื้อในอเมริกาเหนือได้