สถานการณ์ต่างประเทศ

ประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา ประกาศจะเจรจากับสหรัฐเพื่อจัดตั้งสำนักงานรักษาผลประโยชน์ในทั้งสองฝ่ายภายใน 30 วัน ซึ่งเป็นการลดท่าทีแข็งกร้าวลงจากเดิมที่ประกาศขับทูตสหรัฐออกจากประเทศ ขณะที่ชาติมหาอำนาจในสหภาพยุโรปบีบเวเนซุเอลาให้จัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 8 วัน ประธานาธิบดีมาดูโรเผยว่า เวเนซุเอลาจะเจรจากับสหรัฐเพื่อจัดตั้งสำนักงานรักษาผลประโยชน์ในทั้งสองฝ่ายภายใน 30 วัน โดยจะเป็นการติดต่อทางการทูตระหว่างกันผ่านสถานเอกอัครราชทูตของประเทศที่ 3 ที่ตั้งอยู่ทั้งในกรุงวอชิงตัน และกรุงการากัส ซึ่งจะเป็นรูปแบบเดียวกับที่สถานเอกอัครราชทูตสวิตเซอร์แลนด์ทั้งในสหรัฐและอิหร่าน ทำหน้าที่ประสานงานให้กับทั้งสองประเทศ ก่อนหน้านี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดีมาดูโรเพิ่งแถลงตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับรัฐบาลสหรัฐที่รับรองนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านเป็นประธานาธิบดีเวเนซุเอลาอย่างเป็นทางการ ทำให้เจ้าหน้าที่ทูตบางส่วนของทั้งสหรัฐและเวเนซุเอลาต้องเดินทางกลับประเทศตนเอง นอกจากนี้ สหรัฐยังประกาศให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกต้องเลือกข้าง โดยขอให้ฝ่ายสนับสนุนสหรัฐตัดเครือข่ายทางการเงินของรัฐบาลเวเนซุเอลา ซึ่งล่าสุด ชาติมหาอำนาจในยุโรปทั้งอังกฤษ เยอรมนี ฝรั่งเศส และสเปน ต่างแถลงในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติว่า พวกเขาจะยอมรับนายไกวโดเป็นประธานาธิบดีที่ชอบธรรมของเวเนซุเอลาหากประธานาธิบดีมาดูโรไม่ยอมจัดการเลือกตั้งใหม่ภายใน 8 วัน แต่รัฐมนตรีต่างประเทศเวเนซุเอลาบอกว่า ประธานาธิบดีมาดูโรเป็นผู้นำที่ชอบธรรมตามรัฐธรรมนูญ และเวเนซุเอลาจะไม่ยอมรับแรงกดดันจากต่างชาติและภายนอกที่จะมากำหนดว่าผู้นำของพวกเขาคือใคร และควรมีการเลือกตั้งใหม่เมื่อใด ขณะที่รัสเซีย จีน อิหร่าน ซีเรีย คิวบา และตุรกี ก็เรียงหน้าออกมาสนับสนุนรัฐบาลประธานาธิบดีมาดูโรที่มีอำนาจชอบธรรมตามกฎหมาย และว่าเส้นตายของชาติมหาอำนาจในยุโรปที่ให้เวเนซุเอลาจัดการเลือกตั้งใหม่เป็นเรื่องไร้สาระ อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กระแสกดดันจากสหรัฐและพันธมิตร คือชาติในยุโรป แคนาดา และหลายประเทศในละตินอเมริกา ส่งผลต่อการเมืองและเศรษฐกิจเวเนซุเอลาดิ่งหนัก โดยประธานาธิบดีมาดูโรได้รับเลือกตั้งเป็นสมัยที่สองเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว แต่สหรัฐนำประเทศพันธมิตรไม่ให้การรับรอง และสนับสนุนฝ่ายค้านเวเนซุเอลาตั้งแต่นั้นมา และล่าสุด มีรายงานด้วยว่า พ.อ.โฮเซ ลูอิส ซิลวา ผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประจำสถานเอกอัครราชทูตเวเนซุเอลา ในกรุงวอชิงตัน เผยแพร่แถลงการณ์ว่าเขาร่วมยอมรับนายไกวโด ในฐานะประธานาธิบดีซึ่งมีอำนาจชอบธรรมแต่เพียงผู้เดียวของเวเนซุเอลา