สถานการณ์ต่างประเทศ

25 ม.ค.62 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน วิกฤตการเมืองเวเนซุเอลายังคงระอุหลังประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลาประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองกับสหรัฐ ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้การรับรองสถานะอย่างเป็นทางการกับนายฮวน ไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซุเอลา แต่กองทัพประกาศไม่ยอมรับ และจะปกป้องอธิปไตยของชาติ ล่าสุด กระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ได้มีคำสั่งอพยพเจ้าหน้าที่กลุ่มงานที่ไม่ฉุกเฉินและครอบครัว ให้เดินทางกลับสหรัฐโดยให้เหตุผลเรื่องความปลอดภัย ยังไม่ได้มีแผนการที่จะปิดสถานทูตแต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ มาดูโร ได้มีคำสั่งให้นักการทูตสหรัฐออกจากเวเนซุเอลาภายในเวลา 72 ชั่วโมง หลังสหรัฐให้การสนับสนุนผู้นำฝ่ายค้าน แต่สหรัฐเพิกเฉยต่อคำสั่งดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่ามาดูโรไม่ใช่ผู้ที่ชอบธรรมของเวเนซุเอลาอีกต่อไป และสหรัฐให้การรับรองนายไกวโด ผู้นำฝ่ายค้านเป็นประธานาธิบดีเฉพาะกาลของเวเนซุเอลา ซึ่งอนุญาตให้สหรัฐเปิดทำการสถานทูตในเวเนซุเอลาได้ต่อไป อีกด้านหนึ่งชาวเวเนซุเอลายังคงเดินหน้าประท้วงต่อต้านรัฐบาลอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เมื่อวันพุธ (23 ม.ค.) ซึ่งล่าสุดมีผู้เสียชีวิตจากการชุมนุมแล้ว 26 คน ขณะที่ นายพลวลาดิเมียร์ ปาดริโน รัฐมนตรีกลาโหมเวเนซุเอลาพร้อมนายทหารระดับสูง ได้ออกมาประกาศสนับสนุนประธานาธิบดีมาดูโร และจะปกป้องอำนาจของนายมาดูโรจากผู้พยายามก่อรัฐประหาร ด้านประธานศาลฎีกาประกาศว่าจะภักดีต่อนายมาดูโรเช่นกัน โดยระบุว่าการรัฐประหารกำลังก่อตัวขึ้นในเวเนซุเอลาโดยได้รับความเห็นชอบยินยอมจากรัฐบาลต่างชาติ ทั้งนี้ สมาชิกถาวรในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ที่ไม่ยอมรับนายมาดูโรประกอบด้วยสหรัฐ อังกฤษ ฝรั่งเศส ขณะที่รัสเซียและจีนยังคงรับรองเขาอยู่และตำหนิคนภายนอกที่เข้าไปแทรกแซงเวเนซุเอลา