ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
นายรพี สุจริตกุล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล อธิบดีกรมบังคับคดี ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการก.ล.ต. ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2562 นั้น ขอแสดงความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะด้วยความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ที่น.ส.รื่นวดีมีในหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของตลาดทุน เนื่องจากเคยทำงานที่ก.ล.ต. มาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 11 ปี ทำให้มีความเข้าใจในบทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานกำกับดูแล และองค์ประกอบต่าง ๆ ของตลาดทุนประกอบกับความซื่อตรง มุ่งมั่นทำงานจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างทั้งภาคราชการและเอกชน จึงเชื่อมั่นว่าจะเป็นผู้ที่นำพาองค์กรก.ล.ต. และตลาดทุนไปสู่การเจริญเติบโตอย่างยั่งยืนได้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.รื่นวดี ปัจจุบันอายุ 53 ปี จบการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต (เกียรตินิยมอันดับ 1 เหรียญทอง) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต (M.B.A.) Walter A. Haas School of Business, University of California, Berkeley, the United States of America, นิติศาสตรมหาบัณฑิต (LL.M.) Harvard Law School, the United States of America และเนติบัณฑิตไทย (นบท.) สำนักอบรมกฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา และนอกจากดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมบังคับคดีแล้ว ยังมีตำแหน่งเป็นกรรมการในบริษัท ธนารักษ์พัฒนสินทรัพย์ จำกัด กรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ การเกษตร (ธ.ก.ส.) กรรมการอิสระและกรรมการตรวจสอบ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) ส่วนในด้านประสบการณ์ทำงาน น.ส.รื่นวดีในฐานะกรมบังคับคดี เป็นผู้รับเรื่องจากกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ในการดำเนินคดีอายัดบัญชีน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในคดีความเสียหายโครงการรับจำนำข้าว หลังศาลปกครองมีคำสั่ง นอกจากนี้ประสบการณ์ทำงานในด้านเศรษฐกิจ น.ส.รื่นวดีเคยทำงานเป็นผู้บริหารก.ล.ต.มาก่อน และทำงานร่วมกับธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย โดยเป็นประธานการประชุม เพื่อรายงานผลการจัดอันดับความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจของธนาคารโลก ประจำปี 2562 (Ease of Doing Business 2019)