ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
นายกลินท์ สารสิน ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบัน SMEs ของไทย ได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาไปตามสภาวะทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญและร่วมกันพัฒนา SME ของไทยอย่างจริงจัง เพราะ SMEs มีบทบาทและเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ประมาณการอัตราการขยายตัวของ GDP SME ในปี 2561 อยู่ที่ร้อยละ 5.0 – 5.5 และมูลค่า GDP SME ไตรมาส 2 ของปี 2561 มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 5.0 โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากผลผลิตภาคเกษตรที่ขยายตัวสูง รวมทั้งภาคการส่งออกที่ขยายตัวได้ดีกว่าไตรมาสก่อน แม้ว่า GDP SME ไตรมาส 2 จะได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของภาคผลิต แต่อัตราการขยายตัวเฉลี่ยในครึ่งปีแรกยังเท่ากับร้อยละ 5.5 จึงยังคงประมาณการการเติบโตของ GDP SME ทั้งปี 2561 ไว้ที่ร้อยละ 5.0 – 5.5 โดยคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง GDP SME จะยังคงขยายตัวได้ดีต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันให้ SME จะมีส่วนช่วยให้ SME มีความพร้อมที่จะสามารถแข่งขันได้ทั้งในและต่างประเทศต่อไป ทั้งนี้ทางหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนา SMEs จึงได้แต่งตั้งรองประธานกรรมการ (นายพลิษศร์ ภิรมย์ภักดี) เป็นผู้รับผิดชอบขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริม SMEs ผ่าน Thailand Smart Center (TSC) ซึ่งจะมุ่งเน้นการให้บริการเชิงรุก เข้าถึงง่ายและจับต้องได้จริง เน้นการพัฒนาผู้ประกอบการ 4.0 ให้สมาชิกสามารถนำข้อมูล นวัตกรรม และมาตรฐาน ไปต่อยอดในการดำเนินธุรกิจ ส่งเสริมให้เกิดการต่อยอดความรู้และประสบการณ์ เพื่อยกระดับผู้ประกอบการทุกระดับ รวมถึงการส่งเสริมให้เกิดธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ และน้อมนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีองค์กรพันธมิตรทั้งจากภาครัฐและเอกชนขนาดใหญ่ให้การสนับสนุน นายพลิษศร์ ภิรมย์ภักดี รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และประธานคณะกรรมการ Thailand Smart Center (TSC) กล่าวว่า หอการค้าไทย ได้ร่วมกับบริษัทเอกชนชั้นนำของไทย 14 แห่ง ดำเนินโครงการ Big Brother 50 (Season 1) เมื่อปี 2560 ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวประสบความสำเร็จจนเป็นที่กล่าวถึงในวงกว้างเนื่องจากเป็นการบูรณาการความร่วมมือทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ในการบ่มเพาะผู้ประกอบการตามแนวทางประชารัฐ สอดรับกับนโยบายรัฐบาล จึงได้ขยายผลโครงการ Big Brother โดยจัดเป็น Season 2 ขึ้น ในปี 2561 สำหรับโครงการ Big Brother (Season 2) มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือการยกระดับผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม ให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันสูงขึ้น นำไปสู่การลงทุน การจ้างงาน อันส่งผลต่อการหมุนเวียนของระบบเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนั้น ยังเป็นการเพิ่มทักษะและองค์ความรู้ที่จำเป็นต่อการประกอบธุรกิจ และสร้างกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเชื่อมโยงในการดำเนินธุรกิจระหว่างธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กับธุรกิจขนาดใหญ่ รวมถึงสร้างวิสัยทัศน์การเป็นผู้ประกอบการในการดำเนินธุรกิจในมิติต่าง ๆ รองรับการแข่งขันทั้งภายในและภายนอก และที่สำคัญเป็นการถ่ายทอดวิธีคิด และแนวทางการทำงาน จากประสบการณ์ของบริษัทชั้นนำ แก่ผู้ประกอบการขนาดย่อม นอกจากนี้ก็ยังมีการสร้างเครือข่ายธุรกิจร่วมกันระหว่างบริษัทพี่และบริษัทน้อง