สถานการณ์ในประเทศ

กสทช.ประกาศแผนปี 62 เล็งเร่งคืนคลื่น หนุน 5G เยียวยาทีวีดิจิทัล นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แถลงทิศทางและนโยบายการทำงานของกสทช.ในปี 2562 ว่า จากการประชุมระดับผู้บริหารของกสทช.เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาได้กำหนดทิศทางและการทำงานในปีหน้าดังนี้ การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลด้วยการสนับสนุนยุทธศาสตร์ 5G ให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้โดยทบทวนเงื่อนไขการประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ให้สะท้อนความต้องการที่สมเหตุสมผลเหมาะสมกับบริบทของอุตสาหกรรมโทรคมนาคม , ทบทวนเงื่อนไขและระยะเวลาการชำระเงินทั้งที่ประมูลผ่านไปแล้วและที่จะประมูลใหม่เพื่อสร้างแรงจูงใจให้กับภาคเอกชนในการลงทุน ,ปรับปรุงหลักเกณฑ์การประมูลคลื่นความถี่ 5G โดยแบ่งใบอนุญาตเป็น 2 รูปแบบ คือใบอนุญาตครอบคลุมพื้นที่ที่กำหนด และใบอนุญาตที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ,กำหนดหลักเกณฑ์ในการประมูลคลื่นความถี่หลายย่านพร้อมกัน (ประมูลร่วมแบบมัลติแบนด์)และทำการทดสอบการให้บริการเทคโนโลยี 5G ในกรุงเทพฯ โดยร่วมกับจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทำการทดสอบระหว่างปี 2562-2563 ทั้งนี้ในเดือนธ.ค.จะแต่งตั้งคณะทำงานประเมินเพื่อเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2600 เมกกะเฮิรตซ์ ของอสมท ก่อน ด้วยแนวทางการจัดสรรคลื่นดังกล่าวเชื่อว่าจะสามารถผลักดันให้เทคโนโลยี 5G ให้บริการในเชิงพาณิชย์ในประเทศไทยได้ตามกำหนด ส่วนแก้ไขปัญหาทีวีดิจิทัลในระยะยาว โดยการปรับปรุงการใช้งานคลื่นความถี่ย่าน 700เมกกะเฮิรตซ์ โดยจะเยียวกับผู้ได้รับผลกระทบ โดยเยียวยากลับคลืนทั้งผู้ให้บริการทีวีดิจทัลและผู้ให้บริการมัค ทั้งนี้การประมูลจะมีการประมูลล่วงหน้าก่อนที่จะสิ้นสุดระยะเวลาในใบอนุญาต,สนับสนุนแนวทางแก้ปัญหาที่ขึ้นจากประกาศมัสแครี่ โดยเฉพาะภาระที่เกิดจากมัสแครี่ โดยสำนักงานฯ เห็นว่าควรให้มีการสนับสนุนการออกอากาศไปจนถึงปี 2565 , สนับสนุนค่าใช่จ่ายในการออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดิน โดยจะสนับสนุนผู้ประกอบการไปจนถึงปี 2565และสนับสนุนการสำรวจความนิยม (Rating) โดยสนับสนุนการประเมินเรทติ้งใหม่เพื่อสร้างความเป็นธรรมในการสำรวจความนิยม นอกจากนี้จะจัดทำแผนและหลักเกณฑ์และการอนุญาตสิทธิในวงจรดาวเทียม โดยกสทช.จะรีบดำเนินการยกร่างในการจะเปิดหรือไม่เปิดประมูลสิทธิวงโคจร ร่วมเมื่อกับภาครัฐในการควบคุมการเผยแพร่สื่ออนไลน์ที่ผิดกฎหมาย และร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการให้บริการหมายเลขโทรศัพท์ 191 เป็นหลายเลขฉุกเฉินแห่งชาติ