สถานการณ์ในประเทศ

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า TFFIF ถือว่าประสบความสำเร็จและจะเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของประเทศในการนำมาใช้สร้างโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งในอนาคตจะได้เห็นหน่วยงานราชการใช้กองทุนนี้ให้เกิดประโยชน์ ขณะที่นักลงทุนได้มีช่องทางการลงทุนที่จะให้ผลตอบแทนดี ซึ่งประเทศไทยยังจำเป็นต้องมีการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานอีกมาก ด้านนายประภาศ คงเอียด ผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า การเข้าทำการซื้อขายของกองทุน TFFIF ถือว่าประสบความสำเร็จในช่วงเปิดให้นักลงทุนจองซื้อมีนักลงทุนให้ความสนใจในการจองซื้อจำนวนมาก และขณะนี้กำลังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีกองทุนที่ 2 โดยวันที่ 2 พฤศจิกายนนี้จะหารือนายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวง ถึงการจะนำทางหลวงพิเศษหมายเลข 7 (สายกรุงเทพฯ-บ้านฉาง) หมายเลข 9 (สายถนนวงแหวนรอบนอก-กรุงเทพฯ) ซึ่งเป็นทรัพย์สินของกรมทางหลวงที่จัดเก็บค่าผ่านทางเข้ามาระดมทุนเพิ่มใน TFFIF โดยจะต้องแก้กฎหมาย พ.ร.บ.ทางหลวง เพื่อให้สามารถแบ่งรายได้ค่าผ่านทางให้กองทุนได้ หรืออีกแนวทางหนึ่งอาจจะมีการจัดตั้งเป็นนิติบุคคลพิเศษ (SPV) หรืออาจเป็นรูปกองทุนและทำสัญญากับกองทุน TFFIF เพื่อนำรายได้ค่าผ่านทางมาสนับสนุนกองทุน TFFIF โดยเห็นว่ามีแนวโน้มตั้งเป็นนิติบุคคลพิเศษมากกว่า โดยคาดหวังว่ากองที่ 2 อาจเสนอประชาชนไตรมาส 2 ปี 2562 แต่ก็ขึ้นอยู่กับการใช้เงินของกรมทางหลวงเป็นหลัก “รองนายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายว่าให้ใช้กองทุน TFFIF เป็นแหล่งระดมทุนในการพัฒนาประเทศ เห็นว่าควรจะมีทรัพย์สินเพิ่มที่จะให้ TFFIF เข้าไประดมทุนได้ นอกจากนี้ ยังศึกษาความเป็นไปได้ที่จะมีกองที่ 3 หลังจากบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) ควบรวมกับบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด แล้วจะนำโครงข่ายโทรคมนาคมเข้ามาระดมทุนต่อไป” นายประภาศ กล่าว พื้นที่ไฟล์แนบ