สถานการณ์ในประเทศ

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. รายงานสภาพตลาดกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เดือน ก.ย. 2561 พบว่าช่องรายการที่ได้รับความนิยมสูงสุด (เรตติ้ง) 10 อันดับแรก ได้แก่ อันดับ 1 ช่อง7HD เรตติ้ง 1.866 อันดับ 2 ช่อง 3 HD เรต ติ้ง 1.309 อันดับ 3 ข่อง MONO29 เรตติ้ง 0.917 อันดับ 4 ช่อง Workpoint TV เรตติ้ง 0.830 อันดับ 5 ช่อง ไทยรัฐ ทีวี เรตติ้ง 0.493 อันดับ 6 ช่อง ONE HD เรตติ้ง 0.484 อันดับ 7 ช่อง 8 เรตติ้ง 0.463อันดับ 8 ช่อง 3SD เรตติ้ง 0.380 อันดับ 9 ช่อง Amarin TV HD เรตติ้ง 0.290 และอันดับ 10 ช่อง NOW เรตติ้ง 0.218 สำหรับเดือน ก.ย. 2561 นี้ เรตติ้ง 10 อันดับแรกยังเป็นกลุ่มข่องรายการเหมือนเดือน ส.ค. ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มีบางช่องรายการที่มีเรตติ้งสูงขึ้นจนส่งผลให้การจัดลำดับของช่องรายการมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 กลุ่มคือ 1.กลุ่มช่องความคมชัดสูง (HD) ซึ่งได้แก่ ช่อง 7HD ช่อง 3 HD ช่องไทยรัฐทีวี และช่อง Amarin TV HD ส่วนสภาพตลาดกิจการกระจายเสียงของไทยประจำเดือน ก.ย. 2561 พบว่า จากข้อมูลจำนวนผู้รับฟังวิทยุคลื่นหลักในระบบเอฟ.เอ็ม. จำนวน 40 สถานี (87.5เมกกะเฮิรตซ์-107.0 เมกกะเฮิรตซ์) จากทุกช่องทาง เช่น เครื่องรับวิทยุ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล พยว่าในเดือน ก.ย. 2561 มีประชากรไทยอายุคั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป รับฟังวิทยุ ประมาณ10,554,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ประมาณ 228,000 คน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 2.2 อย่างไรก็ตามจากข้อมูลพฤติกรรมการรับฟังวิทยุ พบว่า ถ้าแยกตามสถานที่ ผู้คนส่วนใหญ่ นิยมรับฟังวิทยุที่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 49.40 ตามมาด้วยการรับฟังวิทยุในรถ ร้อยละ37.24 ในที่ทำงาน ร้อยละ 12.76 และอื่นๆ ร้อยละ 0.60 หากแยกการรับฟังวิทยุตามประเภทอุปกรณ์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่นยังนิยมรับฟังวิทยุผ่านทางเครื่องรับวิทยุคิดเป็นร้อยละ 72.68 ตามมาด้วยการรับฟังผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ร้อยละ25.63 และผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ร้อยละ 1.69 สำหรับสภาพตลาดกิจการกระจายเสียงของไทยประจำเดือน ก.ย. 2561 พบว่า จากข้อมูลจำนวนผู้รับฟังวิทยุคลื่นหลักในระบบเอฟ.เอ็ม. จำนวน 40 สถานี (87.5เมกกะเฮิรตซ์ -107.0 เมกกะเฮิรตซ์ ) จากทุกช่องทาง เช่น เครื่องรับวิทยุ โทรศัพท์เคลื่อนที่ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์ ในเขตพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล พยว่าในเดือน ก.ย. 2561 มีประชากรไทยอายุคั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป รับฟังวิทยุ ประมาณ10,554,000 คน ซึ่งเป็นจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดือน ส.ค. 2561 ที่ผ่านมา ประมาณ228,000 คน หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 2.2 ด้านข้อมูลพฤติกรรมการรับฟังวิทยุ พบว่า ถ้าแยกตามสถานที่ ผู้คนส่วนใหญ่นิยมรับฟังวิทยุที่บ้าน คิดเป็นร้อยละ 49.40 ตามมาด้วยการรับฟังวิทยุในรถ ร้อยละ37.24 ในที่ทำงาน ร้อยละ 12.76 และอื่นๆ ร้อยละ 0.60 หากแยกการรับฟังวิทยุตามประเภทอุปกรณ์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่นังนิยมรับฟังวิทยุผ่านทางเครื่องรับวิทยุคิดเป็นร้อยละ 72.68 ตามมาด้วยการรับฟังผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ร้อยละ25.63 และผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ร้อยละ 1.69 ในส่วนของมูลค่าโฆษณาผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงคลื่นหลักในระบบเอฟ.เอ็ม.ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 36 สถานี (88.0 เมกกะเฮิรตซ์-91.5 เมกกะเฮิรตซ์ , 93.0 เมกกะเฮิรตซ์-103.5 เมกกะเฮิรตซ์และ 104.5 เมกกะเฮิรตซ์-107.0 เมกกะเฮิรตซ์พบว่า ในเดือน ก.ย. 2561 มีมูลค่าโฆษณารวมประมาณ 401,783,000 บาท ลดลงจากเดือนก่อน (ส.ค. 2561) ประมาณ 388,000บาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบการโฆษณาผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงของเดือน ก.ย. 2561 กับปีก่อนหน้า พบว่า มีมูลค่าลดลงประมาณ 25 ล้านบาท-107.0 เมกกะเฮิรตซ์ พบว่า ในเดือน ก.ย. 2561 มีมูลค่าโฆษณารวมประมาณ 401,783,000 บาทซึ่งลดลงจากเดือนก่อน (ส.ค. 2561) ประมาณ 388,000 บาท ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบการโฆษณาผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงของเดือน ก.ย. 2561 กับปีก่อนหน้า พบว่ามีมูลค่าลดลงประมาณ 25 ล้านบาท