สถานการณ์ในประเทศ

ที่ประชุมผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ หรือ พปชร. มีมติเลือก นายอุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค โดยไม่มีคู่แข่ง พร้อมเลือกกรรมการบริหารพรรค โดยนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นเลขาธิการพรรค นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ เป็นรองหัวหน้าพรรค และกอบศักดิ์ ภูตระกูล เป็นโฆษกพรรค หลังมีมติ ได้มีการเปิดตัว หัวหน้าและกรรมการบริหารบนเวที และนายอุตตม กล่าวแสดงจุดยืนและอุดมการณ์ของพรรค ในการชูประเทศไทยสู่ประชาคมโลก แก้ปัญหาความยากจน ก้าวข้ามความขัดแย้ง สร้างสังคมที่เป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างสังคมเกื้อกูลแบ่งปัน ก่อนนำกล่าวคำปฏิญญาณตน จะเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และจะประพฤติตนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จากนั้น นายอุตตม เปิดใจว่า การตัดสินใจลงมาสู่สนามการเมือง ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นการตัดสินใจที่ภาคภูมิใจที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต โดยอาสาทำงานการเมืองอย่างเต็มตัวเป็นครั้งแรก เพื่อสร้างการเมืองใหม่ให้ประเทศ ด้วยการรวบรวมคนดี คนเก่ง คนที่ไม่กล้าก้าวเข้ามาการเมือง แต่อยากรับใช้บ้านเมือง เกิดด้วยอุดมการณ์รวมพลังประชาชน ช่วยขับเคลื่อนประเทศไทยก้าวข้ามอุปสรรคปัญหา ที่ทำให้ประเทศชะงักงัน ก้าวข้ามการเมืองเดิมๆ เชื่อว่าคนไทยทุกคนเห็นตรงกันว่า เราเสียเวลาและเสียโอกาสในการพัฒนาประเทศมานานพอ วันนี้เป็นโอกาสที่จะทำหลายอย่างให้ประเทศ ก้าวข้ามความขัดแย้ง มุ่งมั่นแก้ปัญหาให้ ปชช. โดยทุกภาคส่วนร่วมมือกัน นายอุตตม สาวนายน ยังยืนยันจะยังอยู่ในตำแหน่งรัฐมนตรีต่อไป แต่จะไม่ใช้เวลา และทรัพยากรของรัฐ มาเอาเปรียบคนอื่นอย่างแน่นอน จะรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต่อสังคม ที่ได้รับมอบหมาย พร้อมยอรับจะเป็นที่จับตามมองของสังคมตลอดเวลา และพร้อมจะให้ตรวจสอบ เพราะยึดมั่นในสิ่งที่ต้องทำให้ถูกต้อง เมือถึงเวลาเหมาะสม จะสวมหมวกใบเดียว คือ หมวกพลัง ไม่ต้องเป็นห่วง