สถานการณ์ต่างประเทศ

นายฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ วานนี้ โดยมีสาระสำคัญว่า ผลการเลือกตั้งทั่วไปของกัมพูชา เมื่อ 29 ก.ค. เป็นไปตามการตัดสินใจอย่างอิสระของคนในประเทศ และกระบวนการจัดการเลือกตั้งทั้งหมดตั้งแต่การรับสมัคร การหาเสียง การลงคะแนน และการนับคะแนน อยู่ในกรอบของกฎหมายทุกประการ จึงไม่ควรเป็นประเด็นต้องถกเถียงกันอีก แต่กลับยังคงมีบางประเทศ พยายามแทรกแซงกิจการภายในของกัมพูชา ด้วยการออกแถลงการณ์วิพากษ์วิจารณ์ผลการเลือกตั้งครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นการไม่เคารพการตัดสินใจของชาวกัมพูชาอย่างร้ายแรง ไม่ว่าประเทศใหญ่หรือประเทศเล็กกว่า ต้องเคารพซึ่งกันและกัน การเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรคประชาชนกัมพูชา ของนายฮุน เซน กวาดทั้ง 125 ที่นั่งของสภาผู้แทนราษฎร โดยเป็นพรรคการเมืองใหญ่เพียงพรรคเดียวในการเลือกตั้ง เพราะศาลฎีกาสั่งยุบพรรคกู้ชาติกัมพูชา แกนนำฝ่ายค้าน ตั้งแต่ พ.ย.ปีที่แล้ว และตัดสิทธิ์ทางการเมืองของสมาชิกพรรคทุกคนเป็นเวลา 5 ปี พร้อมดำเนินคดี นายเกิม สุขา ผู้นำฝ่ายค้าน ในข้อหาเป็นกบฏ นายฮุน เซน ยังระบุว่า เขาคือผู้ที่สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นให้แก่กัมพูชา จากการเป็นทุ่งสังหาร ในสมัยรัฐบาลเขมรแดง ของนายพอล พต ให้กลายเป็นประเทศที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์ จากการมีสันติภาพ เสถียรภาพ และการพัฒนาเศรษฐกิจที่รุดหน้าและยั่งยืนต่อไป ถ้อยแถลงของผู้นำกัมพูชา อาจถือได้ว่าเป็นการตอบโต้ นางโรนา สมิธ ผู้แทนพิเศษของสหประชาชาติประจำกัมพูชา ที่เสนอรายงานต่อ คณะมนตรีสิทธิมนษุยชนแห่งสหประชาชาติ ในสัปดาห์นี้ แสดงความกังวลต่อสถานการณ์การเมืองภายในกัมพูชาว่า จากที่เคยมีความหลากหลายทางการเมืองอยู่บ้าง แต่อีกอย่างน้อย 5 ปีนับจากนี้ ชาวกัมพูชาต้องอยู่ภายใต้การปกครองของรัฐบาลพรรคเดียว