สถานการณ์ในประเทศ

ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่าน กล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่ สหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นจีเอ ในนครนิวยอร์ค ของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.) ว่า อิหร่าน ไม่ต้องการเจรจากับรัฐบาลที่ละเมิดกฎหมายและไม่รักษาพันธกรณีระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน ยังเป็นสถานการณ์ที่ย้อนแย้งอย่างมาก เมื่อรัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยื่นข้อเสนอเจรจากับอิหร่าน ขณะเดียวกัน ก็ไม่เคยปิดบังว่าต้องการ โค่นอำนาจรัฐบาลอิหร่านชุดที่ตัวเองต้องการหารือ ด้วยการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่ถือเป็น "การก่อการร้ายทางเศรษฐกิจ" โรฮานี ย้ำว่าจุดยืนของอิหร่านต่อสหรัฐในเรื่องนี้ยังคงเดิม นั่นคือการไม่มีสงคราม ไม่มีมาตรการคว่ำบาตร ไม่มีการข่มขู่คุกคามทุกรูปแบบ และขอเพียงคู่กรณีปฏิบัติตาม หลักนิติธรรมระหว่างประเทศเท่านั้น เขายังระบุด้วยว่า รัฐบาลทรัมป์มีกรอบความคิด เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ว่าคือการใช้อำนาจนิยมเพื่อรักษาผลประโยชน์ ของตัวเองให้ได้มากที่สุด โดยไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงความถูกต้อง การกล่าวถ้อยแถลงของโรฮานีบนเวทียูเอ็นจีเอเกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อจากทรัมป์ ที่ระบุว่า แนวคิด "โลกนิยม" ซึ่งส่งเสริมความเป็นสากลให้กับกลไกทางเศรษฐกิจนั้น "เป็นศัตรูของ ความรักชาติ" ตอกย้ำแนวคิด "อเมริกาต้องมาก่อน" ซึ่งผู้นำสหรัฐยืนยันว่า คือการรักษาผลประโยชน์ของประเทศให้ได้มากที่สุด ทั้งในด้านความมั่นคงและการค้า โดยทรัมป์ เชื่อมโยงประเด็นนี้กับการที่สหรัฐถอนตัวออกจากทั้งข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน และ ความตกลงปารีส ว่าด้วยการควบคุมการปล่อยก๊าซคาร์บอน รวมทั้งเตือนว่าสหรัฐ "จะลงโทษ" สมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ นาโต ที่ยังคงไม่ยอมเพิ่ม สัดส่วนงบประมาณกลาโหม และการเดินหน้ามาตรการกดดันทางการค้าต่อจีน