สถานการณ์ในประเทศ

ความคืบหน้า กรณีนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ประธานเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ เรียกร้องให้ตรวจสอบการหักหัวคิวการฝึกอบรมอาชีพให้คนพิการ และกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษ ขณะที่กระทรวงแรงงานได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงใน 15 วัน น.ส.นฤชล โสภา อนุกรรมการฝ่ายอาชีพ สมาคมคนพิการแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สมาคมคนพิการฯ ซึ่งมีสมาชิกเป็นคนพิการ 7 ประเภท มีมติให้ชี้แจงข้อเท็จจริงเรื่องหัวคิวคนพิการ ให้สังคมได้รับทราบข้อมูล บนพื้นฐานความเป็นจริง โดยวันนี้ คนพิการจะรวมตัวไปพบ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เพื่อให้ข้อมูลอีกด้านหนึ่ง โดย คนพิการที่จะไปให้ข้อมูลกระทรวงแรงงาน จะเป็นกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการฝึกอบรม หรือประกอบอาชีพมีรายได้จริง ตามมาตรา 33 และ 35 และอีกส่วนหนึ่งจะเป็นกลุ่มที่เคย เข้ารับการอบรมกับนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ตัวแทนเครือข่ายพิทักษ์สิทธิ์คนพิการ ซึ่งเคยเป็นตัวกลางจัดฝึกอบรมให้คนพิการ แต่ถูกนายปรีดา ฉวยเอาผลประโยชน์ไป ด้านนายปรีดา ลิ้มนนทกุล ระบุว่า ได้ร้องเรียนดีเอสไอ และดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปแล้ว วันที่ 27 กันยายนนี้ จะนำข้อมูลไปมอบเพิ่มเติม และจะแถลงให้ชัดเจน ทั้งนี้ บางจังหวัด ผู้นำคนพิการรับเงินไปถึง 60 ล้านบาท ส่วนจังหวัดเล็ก ๆ ยังได้ไป 7 ล้านบาท ส่วนข้าราชการ ที่เข้าไปเกี่ยวข้อง จะได้ก็แค่เศษเงินเล็กน้อย และไม่ได้รู้สึกหนักใจ ที่สมาคมคนพิการออกมาโต้แย้งข้อมูลทุจริตคนพิการ 1,500 ล้านบาทเกินความจริง ส่วนที่พาดพิงว่าตนเองเคยเป็นตัวกลางในการจัดอบรมคนพิการมาก่อน และถูกคนพิการร้องเรียน ต้องถามว่าเรื่องที่เป็นความลับทางราชการ รู้ได้อย่างไร และนอกจากร้องดีเอสไอ จะไปร้องสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐด้วย