ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงโครงการปรับปรุงระบบเงินฝาก ผู้ต้องขัง ให้มีความเป็นระบบและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ว่า ในระบบเดิม การฝากเงินให้ผู้ต้องขังไว้สำหรับใช้จ่ายในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อเครื่องใช้ ประจำวันส่วนตัว จำพวก สบู่ ยาสีฟัน ขนม หรือนมกล่อง ญาติจะต้องเดินทางมายัง เรือนจำที่ผู้ต้องขังถูกควบคุมตัว เพื่อฝากเงินเข้าบัญชีให้แก่ผู้ต้องขัง โดยเรือนจำอนุญาต ให้ฝากเงินได้เดือนละไม่เกิน 9,000 บาท เพื่อให้นักโทษใช้จ่ายได้วันละไม่เกิน 300 บาท ซึ่งระเบียบดังกล่าวเป็นภาระในการเดินทางให้แก่ญาติของผู้ต้องขัง เนื่องจากบางราย มีภูมิลำเนาอยู่ในจังหวัดภาคเหนือ แต่ผู้ต้องขังกระทำความผิดในกรุงเทพฯหรือจังหวัด ภาคใต้ กรมราชทัณฑ์จึงมีโครงการทำความร่วมมือกับธนาคารของรัฐ เพื่อเข้ามาเปิด บัญชีเงินฝาก และบัตรกดเงินให้แก่ผู้ต้องขัง เพื่อให้ญาติสามารถโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องขัง ผ่านระบบ e- banking หรือช่องทางต่างๆของทางธนาคาร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ระบบเงินฝากรูปแบบใหม่ นอกจากจะเป็นการอำนวย ความสะดวกให้กับญาติของผู้ต้องขังแล้ว ยังช่วยลดภาระหน้าที่ของเรือนจำที่ต้องเกลี่ย อัตราผู้คุมมาทำหน้าที่รับฝากเงินให้ผู้ต้องขัง และเก็บรักษาเงินฝากของผู้ต้องขัง นอกจากนี้ ยังเป็นการปิดช่องว่างไม่ให้เกิดข้อครหาว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำหักหัวคิวหรือค่าดำเนินการ ฝากเงินให้นักโทษ โดยกรมราชทัณฑ์พร้อมที่จะดำเนินการให้สถาบันการเงินเข้ามาออก เลขบัญชีให้ผู้ต้องขังทั่วประเทศกว่า 367,000 คน และจัดทำระบบหรือออกบัตรเพื่อใช้ ตัดลดวงเงินฝากจากยอดการใช้จ่ายประจำวันของนักโทษ ซึ่งกำหนดเพดานไว้ที่ 300 บาทต่อวัน ที่สำคัญเงินฝากในบัญชีธนาคารของนักโทษยังจะได้รับการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากในอัตรา ที่สถาบันการเงินกำหนดอีกด้วย ทั้งนี้ วันที่ 26 ก.ย.นี้ เวลา 10.00 น. กรมราชทัณฑ์จะลงนามในบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความ ร่วมมือด้านการรับฝากเงินผู้ต้องขังผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารกรุงไทย เพื่อพัฒนา ระบบรับฝากเงินผู้ต้องขังผ่านระบบอิเล็กทรอนิคส์