สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์คปิดที่ 25,998.92 จุด เพิ่มขึ้น 27.86 จุด หรือ +0.11% ด้านดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,888.92 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด หรือ +0.04% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,954.23 จุด ลดลง 18.25 จุด หรือ -0.23% ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืน โดยนักลงทุนขานรับรายงาน สหรัฐกำลังหาทางเริ่มต้นเจรจาการค้าครั้งใหม่กับจีน หลังภาคธุรกิจสหรัฐรวมตัวในนาม Americans for Free Trade เพื่อต่อต้านนโยบายการปรับขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ด้วยการซื้อโฆษณา และจัดการประชุมในรัฐต่างๆ พร้อมเชิญชวนให้สมาชิกสภาคองเกรสเข้าร่วมงานรณรงค์ซึ่งจะจัดขึ้นในสัปดาห์หน้า ที่รัฐเพนซิลเวเนีย อิลลินอยส์ และเทนเนสซี หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังเกี่ยวกับการเจรจาการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐและจีน โดยหุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 2.4% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ ขึ้น 1.6% หุ้นเอเมอร์สัน อิเล็กทริก ดีดขึ้น 1.1% หุ้นกลุ่มธุรกิจเพื่อสุขภาพปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยหุ้นบอช เฮลธ์ ทะยานขึ้น 14% ส่วนหุ้นโฟมิกซ์ ฟาร์มาซูติคัล พุ่งขึ้น 3.2% อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดดัชนี Nasdaq ปิดในแดนลบ โดยหุ้นแอปเปิล ร่วงลง 1.2% เนื่องจากนักลงทุนมองว่า ผลิตภัณฑ์ iPhone ใหม่ 3 รุ่นที่แอปเปิลประกาศเปิดตัวเมื่อวานนี้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก ได้แก่ iPhone Xs Max, iPhone Xs และ iPhone XR ส่วนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยี หุ้นเฟซบุ๊ก ร่วงลง 2.4% หุ้นทวิตเตอร์ ดิ่งลง 3.7% หุ้นอัลฟาเบทบริษัทแม่ของกูเกิล ลดลง 1.5% หุ้นไมครอน เทคโนโลยีส์ ร่วงลง 4.3% หุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวลง หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 2.961% เมื่อคืนนี้