สถานการณ์ต่างประเทศ

สำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (โอซีเอชเอ) ออกรายงานเมื่อวันจันทร์ว่า สถานการณ์สู้รบในจังหวัดอิดลิบ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ทวีความรุนแรงตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และส่งผลให้ประชาชนอย่างน้อย 30,542 คน ลี้ภัยออกจากพื้นที่ระหว่างวันที่ 1-9 ก.ย. ส่วนใหญ่มุ่งหน้าขึ้นเหนือ ปักหลักตามแนวชายแดนที่ติดกับตุรกี และจำนวนผู้ลี้ภัยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงเตือนว่ากำลังเป็นสัญญาณของ วิกฤติด้านมนุษยธรรมครั้งเลวร้ายที่สุดในศตวรรษที่ 21 ขณะที่รัฐบาลตุรกี เพิ่มมาตรการด้านความมั่นคงตามแนวพรมแดนทางใต้ที่ติดกับตุรกี เพื่อป้องกันการทะลักข้ามพรมแดนของผู้ลี้ภัย ด้านสหรัฐ ยังคงย้ำถึงการใช้มาตรการทางทหาร เพื่อตอบโต้กองทัพซีเรียใช้อาวุธเคมีต่อ พลเรือน โดยมีรายงาน รัฐบาลสหรัฐหารือกับสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และเยอรมนี เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารร่วมเพื่อการนี้ด้วย ส่วนกระทรวงหลาโหมรัสเซีย ออกแถลงการณ์ประณามรัฐบาลสหรัฐ ที่ใช้ระเบิดฟอสฟอรัสขาว ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศต่อเป้าหมายทางทหารของกองทัพซีเรีย ในจังหวัดเดอีร์ เอสซอร์ เมื่อวันเสาร์ ที่ทำให้เกิดไฟไหม้ แต่สหรัฐปฏิเสธ จังหวัดอิดลิบ มีประชากรราว 3 ล้านคน เป็นเขตยึดครองขนาดใหญ่แห่งสุดท้ายของฝ่ายกบฏ