สถานการณ์ในประเทศ

นายทองเปลว กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า สถานการณ์น้ำใน จ.ปราจีนบุรี นครนายก และ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งมี 3 ลุ่มน้ำเชื่อมกันนั้น ดีขึ้นตามลำดับ น้ำที่ไหลลงสู่แม่น้ำ ปราจีนบุรีน้อยลง ทำให้น้ำที่เอ่อท่วมตลาดเก่า อ.กบินทร์บุรี ลดลงตามลำดับ ส่วนที่ อ.เมืองปราจีนบุรี แม้ระดับน้ำยังคงสูงกว่าตลิ่งเล็กน้อย แต่ยังต่ำกว่าพนังป้องกันน้ำ ในตัวเมืองจึงไม่ได้รับผลกระทบ ส่วนที่โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ได้ทำคันกั้นน้ำ และสูบน้ำที่ซึมเข้าไปท่วมขังออกแล้ว อย่างไรก็ตาม พื้นที่ที่น่าเป็นห่วงขณะนี้ คือ ลุ่มน้ำนครนายก เนื่องจากแม่น้ำปราจีนบุรี มีความจุ 1,000 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขณะที่แม่น้ำนครนายก มีความจุประมาณ 200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที น้อยกว่าแม่น้ำปราจีนบุรี 4-5 เท่า ทำให้เมื่อน้ำจากแม่น้ำ ปราจีนบุรีมาบรรจบ ระดับแม่น้ำนครนายกจึงสูงขึ้น กรมชลประทาน ได้บริหารจัดการ โดยใช้เขื่อนขุนด่านปราการชล ชะลอน้ำที่จะไหลลงมาสมทบแม่น้ำนครนายก และ ติดเครื่องผลักดันน้ำเป็นระยะๆ ของแม่น้ำปราจีนบุรีและแม่น้ำนครนายก ทั้งนี้ แม่น้ำนครนายก จะไหลไปสู่แม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ บริเวณสะพานวัดบางแตน อ.บ้านสร้าง 15 เครื่อง อีกทั้งยกบานระบายของเขื่อนบางปะกง สุดบาน เพื่อเร่งระบายออกทะเล ส่วนอีกทางหนึ่งได้ผันน้ำจากแม่น้ำนครนายก เข้าสู่แม่น้ำ เจ้าพระยา ผ่านคลอง 14 สู่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต เพื่อระบายออกที่สถานีสูบน้ำ ชลหารพิจิตร จ.สมุทรปราการ ซึ่งสามารถสูบน้ำระบายน้ำลงทะเลอ่าวไทยได้ประมาณ 210 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที