สถานการณ์ในประเทศ

พลโทปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 นำคณะ แถลงข่าวความคืบหน้าคดีความมั่นคง 2 คดี โดยคดีแรก เหตุคนร้ายกราดยิง พร้อมขว้างระเบิดเพลิงใส่ สำนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี เมื่อ 30 ส.ค. สามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้ 2 คน หลังจากนำวัตถุพยานทั้งปลอกกระสุนปืนอาก้า 7 ปลอก และปลอกกระสุนปืน เอ็ม 16 จำนวน 10 ปลอก รวมถึงขวดน้ำบรรจุน้ำมันเบนซิน และภาพจากกล้องวงจรปิด จึงทำให้สามารถรู้ตัวผู้ต้องสงสัยมีผู้ร่วมก่อเหตุ 5 คน จับได้ 2 คน ส่วนอีก 3 คน อยู่ระหว่างหลบหนี และจากการสอบปากคำ 1 ใน 2 ให้การรับสารภาพว่าร่วมกันก่อเหตุจริงโดยมีนายรอซาลี หลำโซ๊ะ และ นายอับดุลเลาะ มูดอ เป็นแกนนำร่วมก่อเหตุ มีหมายจับคดีความมั่นคง จำนวน 4 หมาย คดีที่ 2 ตรวจยึดระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 15 กก.ในอำเภอสายบุรี ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 คนได้ เมื่อ 7 ก.ย. จากการสอบปากคำ 1 ใน 3 ให้การรับสารภาพเป็นคนรับระเบิดมาจากชายไม่ทราบชื่อ และจะส่งให้กับชายไม่ทราบชื่อในพื้นที่ แต่ไม่ทราบบุคคลที่กล่าวอ้างนั้นเป็นใคร นอกจากนี้สามารถขยายผลควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยได้อีก 1 คน นำตัวผู้ต้องสงสัยทั้ง 6 คน เข้าสู่ขบวนการสอบสวนเพื่อขยายผลจับกุมคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวด้วยว่า เหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น เนื่องจากเจ้าหน้าที่เปิดแผนยุทธการณ์ที่เข้มงวดเพื่อปราบปราม ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้พยายามออกมาตอบโต้ด้วยวิธีการที่รุนแรง โดยเฉพาะการทำร้ายผู้หญิงและเด็ก ทำร้ายผู้ที่ไม่มีทางสู้ ด้วยการหาเงินโดยการก่อเหตุร้าย การทำร้ายประชาชน เชื่อว่าอีกไม่นานกลุ่มที่ถูกทำร้ายจะรวมตัวสู้ จึงขอให้ผู้ก่อเหตุคิดใหม่ และกลับมาทำตัวใหม่ อย่าอยู่แบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ระเบิดแต่ละลูกทำร้ายชีวิต ต่อไปอาจจะถูกญาติพี่น้องของตัวเองก็ได้ สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในคดีความมั่นคง จะถูกตั้งข้อหาก่อการร้าย และขอความร่วมมือประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตา สอดส่องดูแลรถต้องสงสัย และวัตถุต่าง ๆ ถ้าพบให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ เพื่อป้องกันเหตุที่อาจจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีขาว ที่คนร้ายนำมาก่อเหตุแล้ว 5 คดี เชื่อว่าต่อไปอาจจะนำระเบิดมาซุกแล้วนำไปลอบวางระเบิดในพื้นที่ชายแดนภาคใต้