สถานการณ์ในประเทศ

นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้ความเห็นว่า กระบวนการคลายล็อคและปลดล็อคการเมือง ที่ยังไม่มีความชัดเจน ก่อให้เกิดความเคลือบแคลงว่า จะคลายล็ อกอะไรให้ทำได้บ้าง และ จะปลดล็อคเมื่อไหร่ถึงจะเหมาะสม ล้วนแล้วแต่เกิดจากการกระทำของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในแม่น้ำห้าสายของ คสช. ซึ่ง คสช.ล็อคพรรคการเมืองไม่ให้ปฏิบัติตามกฎหมายพรรคการเมืองที่ มีผลบังคับใช้มานานเกือบปีแล้ว สนช.ก็เขียนกฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. ให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ได้เมื่อผ่านพ้นไป 90 วัน หลังกฎหมายประกาศในราชกิจจานุเบกษา ดังนั้น การกระทำเช่นนี้ ใคร ๆ ก็มองออกว่า เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้มีอำนาจใน คสช. ที่กำลังจะแปรสภาพจากกรรมการ มาเป็นผู้เล่นในสนามการเมือง การปลดล็อคเมื่อไหร่ หรือจะคลายล็อคอะไร ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่ คสช.จะกำหนด ดังนั้น จะต้องรับผิดชอบต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากว่า กระบวนการคลายล็อก ปลดล็อค ที่ คสช.จะกำหนดขึ้นมานั้น เพื่อเอื้อประโยชน์ให้พรรคการเมือง หรือกลุ่มการเมือง ที่มีจุดยืนสนับสนุนผู้มีอำนาจใน คสช. ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น สร้างความไม่ชอบธรรมให้เกิดขึ้นในกระบวนการเลือกตั้ง ส่งผลต่อการยอมรับผลการเลือกตั้งตามมา ในที่สุดอาจกลายเป็นการจุดชนวนปัญหาตามมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตามมาอย่างไม่จบสิ้น คสช. ไม่ควร คลายล็อกปลดล็อค บนพื้นฐานว่าพรรคการเมืองไหนจะได้ประโยชน์ เสียประโยชน์ แต่ควรอยู่บนพื้นฐานความคิดว่า จะทำให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนที่เป็นศูนย์กลางอย่างไร ประชาชนซึ่งเป็นเจ้าของประเทศ จะกำหนดอนาคตของตนเอง และประเทศชาติ ผ่านการเลือกตั้ง ควรมีสิทธิ์เสรีภาพที่จะศึกษาพิจารณานโยบายของพรรคการเมืองต่าง ๆ อย่างกว้างขวางตั้งแต่บัดนี้