สถานการณ์ในประเทศ

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยผลการประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ว่า จะรักษาเสถียรภาพราคาน้ำมันดีเซลให้อยู่ในระดับไม่เกิน 30 บาท/ลิตร ด้วยการปรับลดส่วนของค่าการตลาดลงอยู่ในระดับต่ำ ที่ 1 บาท 26 สตางค์/ลิตร ในกรณีที่ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกระดับไม่เกิน 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล กบง.จึงมีมติกำหนดวงเงินการใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อชดเชยราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล ในอัตราไม่เกิน 30 สตางค์/ลิตร โดยให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ประกาศอัตราชดเชยตามความเหมาะสม ซึ่งกระทรวงพลังงานได้เตรียมพร้อมไม่ให้การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดีเซล กระทบต่อค่าขนส่งสินค้าและค่าครองชีพของประชาชน ด้วยการจัดให้มีการจำหน่ายน้ำมันดีเซลเกรดพิเศษ B20 ให้แก่กลุ่มรถบรรทุกสินค้าและรถโดยสารสาธารณะ ในราคาถูกกว่าน้ำมันดีเซลเกรดทั่วไป 3 บาท/ลิตร ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกมีความผันผวนและมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ถึงระดับ 80 ดอลลาร์สหรัฐฯ/บาร์เรล ประกอบกับค่าเงินบาทอ่อนตัวลงอยู่ในระดับ 33 บาท/ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศสูงขึ้นมาก โดยเฉพาะราคาน้ำมันดีเซลมีแนวโน้มสูงมากถึงระดับ 30 บาท/ลิตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวด้วยว่า กบง.ยังเห็นชอบใช้ กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง รักษาเสถียรภาพราคาขายปลีก ก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ติดลบได้ไม่เกิน 7,000 ล้านบาท จนถึงสิ้นปีนี้ ขณะที่ปัจจุบัน กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ณ วันที่ 2 กันยายน 2561 มีฐานะสุทธิ 26,022 ล้านบาท แยกเป็นบัญชีน้ำมัน 29,359 ล้านบาท และบัญชี LPG ติดลบ 3,337 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม กระทรวงพลังงานมีนโยบายรักษาเสถียรภาพ ราคาขายปลีก LPG ที่ 363 บาท/ถัง 15 กก. ทำให้ต้องใช้กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง(กองทุน 2) ชดเชยราคาที่ 6 บาท 48 สตางค์/ถัง 15 กก. ส่งผลให้กองทุนฯ มีเงินไหลออกสุทธิ 804 ล้านบาท/เดือน