SMART NEWS

ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.

สถานการณ์ในประเทศ

เตือน! ‘ป่วยเป็นหวัด’ อย่าซื้อยากินเอง เสี่ยง’ดื้อยา’

views

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า ในช่วงฤดูฝน ประชาชนมักป่วยเป็นไข้หวัด คออักเสบ มีอาการคัดจมูก มีน้ำมูก มีไข้ เจ็บคอ ไอ หรือเสียงแหบจากหลอดลมอักเสบเฉียบพลัน จึงขอเตือนว่า อย่าซื้อยาปฏิชีวนะหรือที่มักเรียกกันว่า ‘ยาแก้อักเสบ’ มารับประทานเอง เพราะไข้หวัดกว่าร้อยละ 90 เกิดจากเชื้อไวรัส แต่ยาเป็นยารักษาโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย จึงไม่ช่วยลดความรุนแรง หรือช่วยให้หายเร็วขึ้น ที่สำคัญ อาจทำให้เชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกายกลายพันธุ์เป็นเชื้อดื้อยาได้ โดยการสังเกตว่าเป็นหวัดจากไวรัสหรือแบคทีเรีย สามารถทำได้เอง โดยใช้ไฟฉายส่องในช่องปากและดูภายในลำคอจากกระจก หรือใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ ถ้าเป็นหวัดจากเชื้อไวรัส จะมีน้ำมูก ไอ เจ็บคอ คอหอยและต่อมทอนซิลจะเป็นสีแดง เพียงผู้ป่วยพักผ่อน ดื่มน้ำมากขึ้น ดูแลร่างกายให้อบอุ่น กินยารักษาตามอาการ ได้แก่ ยาลดไข้ ยาลดน้ำมูก ยาแก้ไอ อาการจะดีขึ้น ไข้จะค่อย ๆ ลดลงใน 3- 4 วัน และหายเองได้ภายใน 7 วัน ส่วนอาการไออาจจะนานถึง 21 วัน แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ไข้ไม่ลดภายใน 2 – 3 วัน ขอให้ไปพบแพทย์ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ กล่าวต่อว่า กรณีที่มีไข้สูง เจ็บที่ต่อมน้ำเหลืองด้านข้างลำคอ คอหอยและต่อมทอนซิลแดงจัด และมีฝ้าขาวหรือตุ่มหนอง อาจเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ขอให้ไปพบแพทย์ และเมื่อได้รับยาปฏิชีวนะ ขอให้รับประทานยาตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด จนหมด แม้ว่าอาการจะดีขึ้นก็ตาม เพื่อให้หายขาด ไม่กลับเป็นซ้ำ ลดความเสี่ยงเกิดภาวะแทรกซ้อนจากหวัด เช่น หัวใจพิการ ลดปัญหาเชื้อดื้อยาปฏิชีวนะ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้คนไทยเสียชีวิตปีละกว่า 30,000 คน ทั้งนี้ ไข้หวัดเกิดจากเชื้อไวรัส เมื่อหายป่วยร่างกายจะมีภูมิต้านทานต่อเชื้อชนิดนั้น แต่เนื่องจากเชื้อไวรัสไข้หวัดมีหลายสายพันธุ์แตกต่างกันตามช่วงเวลา จึงมีโอกาสติดเชื้อไวรัส สายพันธุ์อื่นอีก ประชาชนควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรงเพื่อป้องกันการป่วย โดยพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ล้างมือบ่อย ๆ และหลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยไข้หวัด รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ยังขอให้กลุ่มเสี่ยง คือ เด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคเรื้อรังประจำตัว เช่น โรคปอด โรคหัวใจ โรคไต เบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง หญิงตั้งครรภ์อายุครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ต้องรับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ทุกปี เพื่อลดความเสี่ยงเกิดโรคแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ปอดอักเสบ และลดการเสียชีวิต ข้อมูลจากสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค รายงาน ตั้งแต่ 1 มกราคม–27 สิงหาคม ทั่วประเทศพบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ 95,239 ราย จาก 77 จังหวัด เสียชีวิต 14 ราย

TW-headbar