สถานการณ์ในประเทศ

พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกระแสข่าวนักท่องเที่ยวถูกข่มขืนแล้วตำรวจไม่รับแจ้งความ และกรณีเกิดเหตุลักทรัพย์นักท่องเที่ยวบ่อยครั้ง ใน จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ได้รับรายงานจาก ตำรวจภูธร จว.สุราษฎร์ธานี ว่า เหตุเกิดเมื่อ 25 มิ.ย. ที่เกาะเต่า แต่ผู้เสียหายไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูรเกาะพะงัน ว่าโทรศัพท์มือถือและเงินหาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวนไม่ได้รับแจ้งว่าถูกข่มขืน ขณะนี้ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.สุราษฎร์ธานี สั่งการให้ สภ.เกาะพะงัน และสภ.เกาะเต่า เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด หรือพยานหลักฐานอื่น ๆ ย้อนหลัง ในบริเวณที่เกิดเหตุและพื้นที่ใกล้เคียง โดยจะเรียกพยานและผู้ที่เกี่ยวข้องกับผู้เสียหายเข้ามาสอบปากคำและพิสูจน์ทราบข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมให้หามาตรการป้องกันเหตุ เพิ่มความเข้มออกป้องกันปราบปราม จุดเสี่ยง โดยกำลังรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ชุดสืบสวนบูรณาการ กับตำรวจท่องเที่ยว ตม. และภาคส่วนที่เกี่ยวข้องสืบสวนสอบสวน เร่งรัดติดตามคดี พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวต่อว่า สำหรับเหตุลักทรัพย์ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง และการรักษาความปลอดภัยให้นักท่องเที่ยวในพื้นที่เกาะพะงัน เกาะเต่า และเกาะสมุย นั้น วันนี้ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธร จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมตำรวจในสังกัด ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตำรวจท่องเที่ยว ร่วมประชุมเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและกำหนดมาตรการ แนวทางการป้องกันการลักทรัพย์นักท่องเที่ยว กำลังเร่งรัดตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อรับทราบปัญหา และวางแผนการปฏิบัติให้เป็นรูปธรรม สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว เกี่ยวกับกลุ่มอาชญากร หรือบุคคลเฝ้าระวัง บุคคลพ้นโทษ ถ้ามีเหตุเกิดขึ้นให้เร่งรัดติดตามจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว รองโฆษก ตร. กล่าวด้วยว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทุกหน่วยบูรณาการการปฏิบัติร่วมกัน และกำชับตำรวจที่เกี่ยวข้อง เร่งคลี่คลายคดี อาศัยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เป็นสำคัญ รวมถึงแนวทางปฏิบัติในการรักษาความปลอดภัย และสร้างความมั่นใจให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางมาท่องเที่ยว หรือพักอาศัยในประเทศไทย และขอประชาสัมพันธ์ประชาชน กรณีเกิดเหตุด่วน เหตุฉุกเฉิน กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สามารถแจ้งสายด่วน 1155 ของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ได้ตลอด 24 ชั่วโมง