ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 ในฐานะกรรมการแก้ไข ปัญหาจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในโซเชียลมีเดีย เรื่องปรับแก้กฎหมายจราจร เปรียบเทียบปรับกรณีไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ว่า จะถูก เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 5 หมื่นบาท และไม่พกใบขับขี่จะถูกปรับ 1 หมื่นบาทนั้น ว่า จำนวนเงินดังกล่าวเป็นเพียงอัตราโทษปรับสูงสุดที่ระบุไว้เท่านั้น แต่การไม่พกใบขับขี่ การเปรียบเทียบปรับจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน และกรณีไม่มีใบขับขี่ การเปรียบเทียบปรับจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ที่จะมีความเห็นสั่งปรับจำนวนเท่าไหร่ และกฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลบังคับใช้ อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 กล่าวว่า การปรับแก้กฎหมายดังกล่าว เนื่องจากขณะนี้ พบว่าสถิติประเทศไทยมีอุบัติเกิดขึ้นสูงสุดเป็นอันดับหนึ่งของโลก จึงมีแนวคิดปรับแก้ เพื่อลดปัญหาและเป็นไปตามสากล โดยเฉพาะการปรับแก้กฎหมายสำหรับผู้ขี่รถจักรยานยนต์ และจากนี้จะพิจารณาแบ่งรถจักรยานยนต์ออกเป็น 2 ประเภท คือ รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก และขนาดใหญ่ ที่มีซีซีมาก หรือ บิ๊กไบค์ โดยพิจารณาทบทวนการเพิ่มกฎเกณฑ์ผู้ที่จะได้รับ ใบอนุญาตขี่รถบิ๊กไบค์ ทั้งอายุ ความสามารถในการควบคุมรถ และการอบรมเฉพาะทาง ผู้บังคับการตำรวจสันติบาล 3 กล่าวถึงการพิจารณาปรับแก้การขอทำใบอนุญาตขับขี่ ที่ต้องผ่านการตรวจจากแพทย์ ว่า ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงที่ส่งผลต่อการควบคุมรถ รวมไปถึง ความสามารถของผู้ขับขี่ด้วย ส่วนผู้ขับขี่ที่ได้รับใบอนุญาตไปแล้ว รวมไปถึงใบขับขี่ตลอดชีพ แล้วเกิดอาการป่วยขึ้นภายหลัง จนส่งผลต่อการขับรถ หากตำรวจพบ จะประสานไปยัง กรมการขนส่งทางบก เพื่อพิจารณาระงับการใช้ใบขับขี่ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถ ใช้ถนนส่วนรวม นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยู่ระหว่างพิจารณายกเลิกส่วนแบ่งค่าปรับ ให้ตำรวจจราจร เพื่อป้องกันข้อครหาการกวดขันวินัยจราจรบนท้องถนน