สถานการณ์ในประเทศ

นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า อิทธิพลของพายุโซนร้อน “เบบินคา” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17-19 สิงหาคม ส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินถล่มใน 6 จังหวัด ได้แก่ จ.น่าน เชียงราย ลำปาง พะเยา เชียงใหม่ และแม่ฮ่องสอน รวม 35 อำเภอ 122 ตำบล ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,252 ครัวเรือน 13,425 คน ผู้เสียชีวิต 1 ราย สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 2 จังหวัด แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 4 จังหวัด ได้แก่ น่าน น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 9 อำเภอ ได้แก่ อำเภอสันติสุข แม่จริม ท่าวังผา ปัว เมืองน่าน เชียงกลาง ภูเพียง เวียงสา และอำเภอทุ่งช้าง รวม 50 ตำบล พะเยา น้ำไหลหลากและ เกิดดินสไลด์ในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอปง เชียงม่วน เชียงคำ แม่ใจ เมืองพะเยา และอำเภอดอกคำใต้ รวม 25 ตำบล มีผู้เสียชีวิต 1 ราย / เชียงราย น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอแม่ลาว เทิง พาน อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า และอำเภอแม่จัน รวม 22 ตำบล และลำปาง น้ำไหลหลากเข้าท่วมในพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอวังเหนือ อำเภองาว อำเภอเมืองปาน และอำเภอแจ้ห่ม รวม 13 ตำบล ส่วนสถานการณ์จากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เซินติญ” และมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม – 19 สิงหาคม 2561 ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มใน 32 จังหวัด รวม 109 อำเภอ ซึ่งสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 27 จังหวัด แต่ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัยอยู่ 5 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม อุบลราชธานี บึงกาฬ กาฬสินธุ์และจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันสถานการณ์น้ำภาพรวมระดับน้ำเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่อย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจกจ่ายถุงยังชีพและเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ผู้ประสบภัย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นแล้วและประชาสัมพันธ์หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากอุทกภัยสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ทาง1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วน