สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,299.92 จุด พุ่งขึ้น 112.22 จุด หรือ +0.45% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,870.89 จุด เพิ่มขึ้น 51.19 จุด หรือ +0.65% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,839.96 จุด เพิ่มขึ้น 18.03 จุด หรือ +0.64% ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 5 วันทำการ หลังจากค่าเงินลีราของตุรกีฟื้นตัวขึ้นเมื่อคืน ทำให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการทรุดตัวของเศรษฐกิจตุรกี และผลกระทบที่จะลุกลามไปยังประเทศต่างๆ นักวิเคราะห์หลายราย ซึ่งรวมถึง แบรด แมคมิลแลน นักวิเคราะห์จาก คอมมอนเวลธ์ ไฟแนนเชียล เน็ตเวิร์ค แสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า การทรุดตัวของค่าเงินตุรกีจะไม่ส่งผลกระทบที่ยาวนานต่อตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรป หรือยูโรโซน จึงมีความเกี่ยวข้องกับธนาคารยุโรปไม่มากนัก ซึ่งจะทำให้ปัญหาไม่ลุกลามออกไป ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของ โฮม ดีโปท์ อิงค์ บริษัทจำหน่ายสินค้าตกแต่งบ้านที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ หลังเปิดเผยกำไรไตรมาส 2 อยู่ที่ 3.05 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ ขณะที่รายได้อยู่ที่ 3.046 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 3.003 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนหุ้นกลุ่มธนาคารดีดตัวขึ้นหลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ปรับตัวขึ้น 2.889% เมื่อคืนนี้ โดยหุ้นโกลด์แมน แซคส์ และหุ้นซิตี้กรุ๊ป ต่างปรับตัวขึ้น 1.2% หุ้นเวลส์ ฟาร์โก ขึ้น 0.8% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ พุ่งขึ้น 1.1% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ปรับขึ้น 1% และหุ้นเจพีมอร์แกน เชส ดีดตัวขึ้น 0.7% สำหรับหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี และกลุ่มพลังงาน ปรับตัวขึ้นเช่นกัน