สถานการณ์ต่างประเทศ

สหรัฐและตุรกีกำลังขัดแย้งทางการเมืองรุนแรงมากขึ้น และหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้าจากตุรกี ทำให้ประธานาธิบดีเรเซป เตยิป เออร์โดอาน ของตุรกี ออกมาเตือนว่า พันธมิตรระหว่างสหรัฐและตุรกี เสี่ยงถึงจุดแตกหัก บทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ อ้างประธานาธิบดีเออร์โดอาน ว่า ข้อพิพาทระหว่างสองชาติมาถึงจุดแตกหัก จากกรณีตุรกีควบคุมตัวบาทหลวงสหรัฐต้องสงสัยก่อรัฐประหาร ปี 2559 ความไม่ลงรอยเรื่องซีเรีย การคว่ำบาตรของสหรัฐต่อเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูงของตุรกี และล่าสุดจากมาตรการภาษีของสหรัฐ ประธานาธิบดีทรัมป์ ประกาศขึ้นภาษีเหล็กและอะลูมิเนียมจากตุรกี เพิ่มเป็น 50% และ 20% ตามลำดับ เมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 13 ส.ค.นี้ และว่าสหรัฐกับตุรกีมีความสัมพันธ์ไม่ดีนักในขณะนี้ ขณะที่กระทรวงการค้าตุรกีโจมตีว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐ ละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (WTO) พร้อมเรียกร้องให้ประเทศอื่น ๆ ปฏิบัติตามกฎสากล เหล็กเป็นสินค้าส่งออกอันดับ 4 ของตุรกี โดยส่งออกไปสหรัฐมากที่สุดเป็นอันดับ 6 ความขัดแย้งระหว่างสองชาติ ฉุดค่าเงินของตุรกีร่วงหนักต่อเนื่อง โดยรอยเตอร์ส รายงาน ค่าเงินลีราปรับลง 18% ระหว่างการซื้อขายวานนี้ นับเป็นการลดลงในรอบวันที่เลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินในตุรกี เมื่อปี 2544 และส่งผลให้เงินลีราปรับลงมาแล้วกว่า 40% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ ผู้นำตุรกี เรียกร้องให้ประชาชนเทขายเงินดอลลาร์สหรัฐและทองคำ เพื่อพยุงค่าเงินในประเทศ โดยย้ำว่าตุรกีจะไม่ยอมแพ้ต่อสงครามเศรษฐกิจครั้งนี้