ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
พล.ท. สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด โดยกำชับให้ทุกหน่วยงาน เช่น สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช ,กรมชลประทาน,กรมอุตุนิยมวิทยา, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้ง ผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัย เฝ้าระวัง แจ้งเตือน วางแผน และปฏิบัติการตามแผน เพื่อป้องกันและบรรเทาปัญหาน้ำท่วม จากปริมาณฝนที่ตกหนักในระยะนี้ ซึ่งนายกรัฐมนตรี พอใจการป้องกันและแก้ไข ปัญหาน้ำท่วมปีนี้ ที่มีความชัดเจนในทางปฏิบัติมากขึ้น หลังจากได้ตั้ง สทนช.ขึ้นมา บูรณาการการทำงานของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทำให้เกิดการประสานและทำงาน กันอย่างใกล้ชิด ทั้งการเตรียมการล่วงหน้าก่อนเข้าฤดูฝน และการจัดทำแผนรับมือ แจ้งเตือนพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบ รวมถึงการตั้งศูนย์เฉพาะกิจชั่วคราวในภาวะวิกฤต เพื่อติดตามวิเคราะห์สถานการณ์น้ำ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ได้รับรายงานว่า หน่วยงานที่รับผิดชอบ เร่งระบายน้ำ 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนน้ำอูนและเขื่อนแก่งกระจาน ให้อยู่ในเกณฑ์ควบคุม รวมถึงการช่วยเหลือ ประชาชนบริเวณพื้นที่ท้ายน้ำ ส่วนเขื่อนใหญ่อื่นยังมีระดับน้ำอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำโขง ตั้งแต่ จ. อุบลราชธานี นครพนม มุกดาหาร เริ่มลดลงตั้งแต่ วันที่ 6 ส.ค. ที่ผ่านมา และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแม่น้ำเพชรบุรี ที่ระดับน้ำลดลง เนื่องจากมีการตัดยอดน้ำเข้าระบบชลประทานมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังเป็นห่วงพื้นที่เสี่ยงต่อภาวะน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และ ดินโคลนถล่ม ใน 8 จังหวัด คือ สกลนคร มุกดาหาร ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และสุราษฎร์ธานี ตามประกาศของทางราชการ โดยสั่งการให้หน่วยงานกลาง และพื้นที่ จัดทำแผนป้องกันและแจ้งเตือนประชาชนอย่างต่อเนื่อง