SMART NEWS

“บลิงเคน” พบหารือ “หวัง อี้” ที่กรุงปักกิ่ง 26 เม.ย. 67 13:04 น.

สถานการณ์ในประเทศ

ผู้การกองปราบ เผย เตรียมออกหมายจับเพิ่มหลอกลงทุนเงินดิจิทัล 5-6 คน

views

กรณีตำรวจกองปราบปราม จับกุม นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม นักแสดงวัยรุ่น ในข้อหาร่วมกันฟอกเงิน หลังมีผู้เสียหายชาวต่างชาติเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ถูกนายบูม และครอบครัว หลอกลงทุนสกุลเงินดิจิทัล ทำให้เสียหาย 797 ล้านบาท โดยศาลยัง ออกหมายจับ นายปริญญา จารวิจิต และนางสาวสุพิชย์ฌา จารวิจิต พี่ชายและพี่สาว ของนายบูม ในข้อหาเดียวกัน มีรายงานว่า ตลอดการสอบสวนและการคุมตัวไว้ตลอดทั้งคืน นายบูมยังคงให้การปฏิเสธ และยืนยันตามคำให้การเดิมคือไม่มีส่วนรู้เห็น โดยอ้างว่าบัญชีดังกล่าวถูกพี่ชายนำไปใช้ ส่วนกระแสข่าวว่า นางสาวสุพิชย์ฌา ติดต่อขอเข้ามอบตัวนั้น ยังไม่มีการยืนยันจาก กองปราบปราม พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม ระบุว่า นางสาวสุพิชย์ฌา ได้ประสานผ่านคนกลางมาเพื่อขอเข้ามอบตัว หลังเมื่อวาน (9 ส.ค.) ปรากฏเป็นข่าว แต่ไม่ระบุวันเวลาสถานที่มอบตัว และยังไม่พบการเดินทางออกนอกประเทศ ทั้งนี้ เตรียมออกหมายจับเพิ่มอีกประมาณ 5-6 คน ที่รับเงินจากการฉ้อโกงเข้าหมุนเวียนในบัญชี ขณะที่ พันตำรวจเอกชาคริต สวัสดี รองผู้บังคับการกองปราบปราม ยืนยันว่าคดีนี้ไม่มี ความเกี่ยวข้องกับธุรกรรม หรือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แต่เป็นลักษณะแอบอ้างว่า บริษัทตัวเองอยู่ในเครือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ ส่วนนายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ บุคคลที่มีชื่อเสียงในตลาดหลักทรัพย์ ที่เข้าพบรองผู้บังคับการ กองปราบปราม เพื่อชี้แจงว่าตนเองตกเป็นเหยื่อของขบวนการนี้เช่นกัน แต่จากการสืบสวนรวบรวมหลักฐาน ตำรวจพบข้อมูลที่เชื่อได้ว่านายประสิทธิ์อาจมีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้อง ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน จากการตรวจสอบ 3 บริษัท ที่เปิดทั้งในประเทศไทยและฮ่องกง พบว่านายปริญญา พี่ชายบูม เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทะเบียนการค้าทั้งสามบริษัท พบว่ามีคนในตระกูล จารวิจิตรเข้าร่วมด้วย และบางบริษัทมีการแอบอ้างกับผู้เสียหายโดยไม่มีตัวตนจริง นอกจากนี้ ยังมีบริษัทอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายดังกล่าวอีกหลายบริษัท ซึ่งตำรวจ กองปราบปรามอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ทั้งนี้ นายปริญญาเคยมีประวัติ ถูกออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงทรัพย์ ในพื้นที่ สน.วัดพระยาไกร

TW-headbar