สถานการณ์ในประเทศ

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา"คลื่นลมแรงบริเวณภาคใต้ และฝนตกหนักบริเวณประเทศไทย" ฉบับที่ 23 เมื่อเวลา 11.00 น. ซึ่งเป็นประกาศฉบับสุดท้ายของเหตุการณ์นี้ ระบุว่า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนบริเวณ ดังกล่าวระวังผลกระทบจากฝนตกหนักและฝนตกสะสมที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และดินโคลนถล่มไว้ด้วย โดยพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบตาม ภาคต่างๆ ดังนี้ ภาคเหนือ : จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย พะเยา แพร่ น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ : จังหวัดอุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ นครพนม สกลนคร และมุกดาหาร ภาคตะวันออก : จังหวัดจันทบุรี และตราด ภาคใต้ : จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง และพังงา สำหรับบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร โดยในช่วงวันที่ 12-16 สิงหาคมนี้ คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนจะมีกำลังแรงขึ้น โดยบริเวณทะเลอันดามัน มีคลื่นสูง 2-4 เมตร อ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูง มากกว่า 4 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สำหรับประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันตก และภาคตะวันออกให้ระวัง คลื่นที่พัดเข้าหาฝั่งไว้ด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมา ประเทศลาวตอนบน และประเทศเวียดนาม ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ยังคงมีกำลังแรงต่อเนื่อง อนึ่ง เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (10 ส.ค.) หย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนทางด้านตะวันออกของเกาะไหหลำ ประเทศจีน ได้ทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุดีเปรสชันแล้ว คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนตัวอย่างช้าๆ และมีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ในช่วงวันที่ 13-14 สิงหาคม จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด และติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือ สายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง