สถานการณ์ต่างประเทศ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดที่ 25,326.16 จุด ลดลง 7.66 จุด หรือ 0.03% ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,827.22 จุด เพิ่มขึ้น 13.86 จุด หรือ 0.49% และดัชนีแนสแดก ปิดที่ 7,802.69 จุด เพิ่มขึ้น 95.40 จุด หรือ 1.24% โดยช่วงแรก ดาวโจนส์ร่วงลงกว่า 100 จุด จากความกังวลเกี่ยวกับการทำสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐและจีน แต่ดาวโจนส์พลิกดีดตัวแดนบวกในเวลาต่อมา จากอานิสงส์แอปเปิล ทำสถิติมาร์เก็ตแคปแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ การพุ่งขึ้นของราคาหุ้นแอปเปิลเป็น ปัจจัยหนุนดัชนีดาวโจนส์, S&P 500 และแนสแดก เนื่องจากหุ้นแอปเปิลถูกนำไปคำนวณ ทั้ง 3 ดัชนีดังกล่าว โดยราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้น 2.92% ปิดที่ 207.39 ดอลลาร์ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังทะยานขึ้นถึง 5.9% เมื่อวันพุธ ขานรับการเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ซึ่งการพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาหุ้นในวันพฤหัสบดี ส่งผลให้แอปเปิลเป็นบริษัท จดทะเบียนแห่งแรกของสหรัฐและของโลกที่มีมูลค่าตลาดแตะ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะนี้ราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นราว 22% นับตั้งแต่ต้นปี และทะยานขึ้นมากกว่า 30% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระลอกใหม่ระหว่างสหรัฐกับจีน ได้ฉุดหุ้นบริษัทส่งออกอย่าง โบอิ้ง, 3เอ็ม และดาวดูปองท์ ร่วงลง และถ่วงดัชนีดาวโจนส์ ให้ปิดในแดนลบ ขณะที่หุ้นเทสลาทะยาน 16% หลังจากที่ซีอีโอ อีลอน มัสก์ กล่าวว่า บริษัทจะสามารถ พลิกกลับมาทำกำไรได้ และมีกระแสเงินสดที่เป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ หลังจาก ขาดทุนมากเกินคาดในไตรมาสที่ผ่านมา