สถานการณ์ในประเทศ

พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า กรมมีมติพิจารณาลงโทษข้าราชการกรณีกระทำผิดวินัย อีก 11 ราย โดยมีมติไล่ออกจากราชการ 8 คน มีพฤติการณ์ต่าง ๆ ได้แก่ 1.ลักลอบนำยาทรามาดอล เข้าไปให้ผู้ต้องขังภายในเรือนจำ 2.เป็นสื่อติดต่อกับผู้ต้องขังโดยได้รับผลประโยชน์เป็นเงินจากผู้ต้องขัง ซึ่งเกี่ยวเนื่องกับการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติด 3.ซุกซ่อนนำยาแก้ไอ 1,000 เม็ด เข้าไปในเรือนจำเพื่อจำหน่ายให้ผู้ต้องขังโดยไม่มีหน้าที่ 4.ใช้เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินของร้านสงเคราะห์ผู้ต้องขังไปเบิกจ่ายซ้ำ โดยนำเงินไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว 5.ไม่นำเงินฝากของผู้ต้องขังเข้าบัญชีตามระเบียบของทางราชการ โดยนำไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัว 6.ไม่รายงานการตรวจค้นพบโทรศัพท์มือถือในเรือนจำ เป็นเหตุให้ผู้ต้องขังไม่ถูกดำเนินคดีอาญาและทางวินัย 7.ให้บุคคลภายนอกเข้าไปทำประโยชน์ในที่ดิน ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของทัณฑสถาน และเรียกรับผลประโยชน์ตอบแทนโดยไม่มีอำนาจ 8.มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักลอบนำโทรศัพท์มือถือเข้าไปแสวงหาประโยชน์ในเรือนจำ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีมติปลดออกจากราชการอีก 3 คน จากพฤติการณ์ 1.ละทิ้งหน้าที่ราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกิน 15 วัน โดยมีพฤติการณ์ไม่มารายงานตัวเพื่อปฏิบัติหน้าที่ราชการ 2.ละทิ้งราชการติดต่อในคราวเดียวกันเป็นเวลาเกิน 15 วัน โดยมีพฤติการณ์ไม่มาปฏิบัติหน้าที่ราชการบ่อยครั้ง และ3.รับฝากสิ่งของที่มีซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือซุกซ่อนอยู่ จากญาติของผู้ต้องขัง นำเข้าไปให้ผู้ต้องขังภายในเรือนจำ พ.ต.อ.ณรัชต์ ยังย้ำให้ข้าราชการในสังกัดกรมราชทัณฑ์ ยึดถือปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด แต่ยังมีข้าราชการส่วนน้อยที่มีพฤติการณ์กระทำผิด แต่กรมไม่ได้นิ่งเฉย แต่ละปีได้พิจารณาลงโทษข้าราชการที่กระทำผิด เพื่อมิให้เป็นแบบอย่าง และสร้างความเชื่อมั่นให้สังคม