ไทยตอนบนเย็นลง แต่ยังคงมีฝน ภาคใต้มีฝน 70-80%
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
ระทึก ไฟไหม้ที่ประชุม COP30 ต้องอพยพผู้คน การเจรจาหยุดชะงัก 21 พ.ย. 68 10:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
19 พฤศจิกายน 2568 15:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
18 พฤศจิกายน 2568 13:11 น.
พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 23 และ 24 ก.ค.นี้ นายกรัฐมนตรีจะนำคณะรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจราชการ และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ณ จ.อำนาจเจริญและอุบลราชธานี ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มจังหวัดราชธานีเจริญศรีโสธร (อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ ยโสธร) โดยการตรวจราชการนั้นให้ความสำคัญ การส่งเสริมและพัฒนาเกษตรอินทรีย์ การพัฒนาแพทย์แผนไทยที่มีมาตรฐานบูรณาการ กับการรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน การอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้เพื่อสร้างสมดุลธรรมชาติ และการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างมีคุณภาพ มุ่งไปสู่เป้าหมายการพัฒนากลุ่มจังหวัด คือ อุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปและเกษตรอินทรีย์เพิ่มมูลค่า การท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ การค้าชายแดนได้มาตรฐานสากล พล.ท.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า สภาพปัญหาของพื้นที่ที่รัฐบาลเล็งเห็นว่าเป็นประเด็นสำคัญและต้องเร่งแก้ไข คือ รายได้ของประชาชนอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะ จ.ยโสธร ศรีสะเกษ และอำนาจเจริญ ติด 1 ใน 10 จังหวัดที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมต่อหัวต่ำที่สุดของประเทศ มีความก้าวหน้าด้านการศึกษาน้อย เกิดภาวะน้ำท่วมน้ำแล้งซ้ำซาก และมีปริมาณขยะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครม.ยังจะได้พิจารณาข้อเสนอแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มจังหวัด ได้แก่ 1.การพัฒนาระบบโลจิสติกส์ ทั้งทางถนน ทางอากาศ และทางราง เช่น ขยายช่องจราจร ขยายสนามบิน ศึกษาโครงการรถไฟทางคู่ 2.การพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อการเกษตรและแก้ปัญหาน้ำท่วม เช่น จัดทำแก้มลิง อาคารบังคับน้ำ ระบบส่งน้ำ 3.การยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่มผลผลิตทางการเกษตร เช่น ก่อสร้างโรงงานต้นแบบเพื่อแปรรูปสินค้าเกษตร ส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ และอุตสาหกรรมชีวภาพครบวงจร 4.การยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เช่น พัฒนาศักยภาพการให้บริการของโรงพยาบาลศูนย์ สนับสนุนศูนย์การแพทย์แผนไทย 5.การส่งเสริมการท่องเที่ยว เช่น พัฒนาเส้นทางคมนาคมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยว พัฒนาช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี วิมานพญาแถน จ.ยโสธร และอ่างเก็บน้ำพุทธอุทยาน จ.อำนาจเจริญ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำว่า การลงพื้นที่และประชุม ครม.นอกสถานที่ เป็นหน้าที่ของรัฐบาล ในการติดตามรับฟังปัญหา และความเดือดร้อนโดยตรงจากประชาชน ขออย่ามองเป็นเรื่องการเมือง ประเทศไทยต้องเดินหน้าต่อไปด้วยความร่วมมือร่วมใจของทุกฝ่าย