สถานการณ์ในประเทศ

พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2560 (งบกลาง) กรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 390 ล้านบาท เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการเร่งด่วนภายใต้แผนปฏิบัติการพัฒนาบุคลากรเพื่อการศึกษา การวิจัยและเทคโนโลยีของพื้นที่ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) เนื่องจากปลายปี 2560 ต้นปี 2561 คณะกรรมการอีอีซีประชุมและกำหนดร่างกรอบแผนการพัฒนาอีอีซี มีร่างแผนพัฒนาบุคลากรด้านการศึกษา พัฒนาด้านการวิจัยและเทคโนโลยีเพื่อรองรับอีอีซี ซึ่งเป็นพื้นที่จะพัฒนามี 10 แหล่งอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมายทั้งอุตสาหกรรมเป้าหมายเดิมและเป้าหมายใหม่ จากรายละเอียดพบว่า แผนปฏิบัติการร่างการวิจัยเทคโนโลยี วัตถุประสงค์ คือการผลิตบุคลากรให้มีคุณภาพและคุณสมบัติ รองรับการพัฒนาอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย หรือเข้าไปทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่อีอีซี มีการวิจัยมีการสร้างนวัตกรรมและพัฒนาสร้างเทคโนโลยีต่อยอดโดยกำหนดแผน 67 โครงการ ใน 67 โครงการจากการเอกซเรย์พบว่ามี 14 โครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน ต้องดำเนินการเร่งด่วนให้สอดคล้องกับการแรงขับเคลื่อนอีอีซี และมีงบประมาณไม่เพียงพอ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวต่อว่า 14 โครงการ จะดำเนินการเร่งด่วนช่วง 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย.) แบ่งย่อย 3 กลุ่ม คือ การพัฒนาบุคลากรและเสริมทักษะบุคลากร สำหรับผู้ที่มีทักษะไม่เพียงพอที่จะเข้าไปทำงาน การเตรียมความพร้อมด้านการศึกษาหลักสูตรตั้งแต่ขั้นพื้นฐานเพื่อรองรับตามอุตสาหกรรมกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ จำเป็นจะต้องใช้งบประมาณเร่งด่วน 390 ล้านบาท จึงของบกลางจาก ครม. เมื่อ ครม. ตรวจสอบรายละเอียดแล้ว พบว่าใน 14 โครงการ เป็นเรื่องที่มีความเร่งด่วนและจำเป็น เพื่อให้ตอบรับกับการพัฒนาอีอีซี จึงอนุมัติ 3 กลุ่มงานที่เกี่ยวข้องกับ 4 กระทรวง คือ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม