สถานการณ์ในประเทศ

นายสัตวแพทย์ เคร็ก ชาลเลน สัตวแพทย์จากเมืองเพิร์ท ซึ่งเป็นคู่หูนักดำน้ำของ นพ.ริชาร์ด แฮร์ริส วิสัญญีแพทย์ จากเมืองแอดิเลด ออสเตรเลีย ให้สัมภาษณ์สื่อออสเตรเลียหลายแห่ง เกี่ยวกับปฏิบัติการกู้ภัยที่ถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะประเด็นที่หลายฝ่ายยังคงให้ความสนใจ คือ การให้ยาบางอย่างแก่สมาชิกทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีแม่สาย น.สพ.ชาลเลน ยอมรับว่า ทีมงานตัดสินใจใช้ยาชนิดหนึ่งที่มีฤทธิ์ต่อระบบประสาท เพื่อให้เด็กมีอาการสงบ เพราะความตื่นตระหนกเป็นตัวแปรสำคัญของขั้นตอนการอพยพ และทุกฝ่ายไม่ต้องการให้ผู้ประสบภัยทั้ง 13 คน แสดงอาการตลอดการเดินทาง ซึ่งยาวนานถึง 3 ชั่วโมง ถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับตัวเขา ที่ไม่มีประสบการณ์ดำน้ำมาก่อน ไม่เคยสวมหน้ากากดำน้ำ และว่ายน้ำไม่แข็ง คงสติแตกเหมือนกัน ขณะที่ผลลัพธ์ของการใช้ยาน่าพอใจมาก น.สพ.ชาลเลน เปิดเผยอีกว่า ในวันที่กำลังจะถูกเรียกตัวนั้น เขาและนพ.แฮร์ริส กำลังจะเดินทางไปเที่ยวกันในช่วงวันหยุด แต่มีโทรศัพท์เข้ามาแจ้งให้เดินทางไปที่สนามบินภายใน 45 นาที เขาและนพ.แฮร์ริส จึงรีบจัดกระเป๋าใหม่ทั้งหมด โดยเพิ่มอุปกรณ์ดำน้ำเข้าไปด้วย ก่อนเดินทางถึงถ้ำหลวงเมื่อวันที่ 6 ก.ค. และดำน้ำเข้าไปพบผู้ประสบภัยในวันรุ่งขึ้น พบกับเจ้าหน้าที่หน่วยซีลของไทย 4 นาย ที่ให้การดูแลทั้ง 13 คนอย่างดี ทุกคนมีสภาพจิตใจที่ดีและเข้มแข็งมาก แม้สภาพร่างกายซูบผอมจนเหลือแต่กระดูก บางคนมีน้ำหนักตัวเหลือเพียง 30 กิโลกรัมเท่านั้น และเพิ่งได้กินอาหารเพิ่มพลังงานไปไม่กี่วันก่อนหน้านั้น ซึ่ง นพ.แฮร์ริส ได้ตรวจร่างกายสมาชิกทีมหมูป่าทีละคน ใช้เวลาประมาณ 45 นาที สัตวแพทย์จากเมืองเพิร์ท เล่าต่อว่า เมื่อถึงวันดีเดย์ ปฏิบัติการอพยพ นพ.แฮร์ริส เข้าไปประจำการอยู่ที่เนินนมสาว หรือโถง 9 เพื่อเตรียมความพร้อมทุกด้านให้แก่ผู้ประสบภัย ขณะที่ตัวเขาประจำอยู่ที่โถง 8 ซึ่งเป็นจุดพักแรก เพื่อประเมินสุขภาพในเบื้องต้น แล้วสำรวจความพร้อมของอุปกรณ์ทุกชิ้นบนตัวเด็ก ก่อนส่งคืนให้นักดำน้ำเพื่อออกเดินทางต่อ