สถานการณ์ในประเทศ

ริชาร์ด สแตนตัน 1 ใน 4 นักดำน้ำในถ้ำ "ทีมเอ" จากสมาคมกู้ชีพผู้ติดอยู่ภายในถ้ำบริติช หรือ บีซีอาร์ซี และเป็นหนึ่งในหัวหอกคนสำคัญของปฏิบัติการอพยพสมาชิกทีมฟุตบอล "หมูป่า อะคาเดมี" ทั้ง 13 คนออกจากถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน อำเภอแม่สาย จังหวัด เชียงราย ให้สัมภาษณ์พิเศษกับหนังสือพิมพ์ "เดอะ ซันเดย์ ไทม์ส" ว่า หลังพบกลุ่ม ผู้ประสบภัย รวมตัวกันอยู่ที่เนินนมสาว เมื่อวันที่ 2 ก.ค. รัฐบาลไทย กล่าวกับทีมงาน บีซีอาร์ซี ว่าจะดำเนินการต่อเอง ซึ่งแนวทางหลักเป็นไปตามที่สื่อทุกแห่งทั้งในและ ต่างประเทศรายงานออกไป คือการทยอยส่งเสบียงให้ผู้ประสบภัยควบคู่ไปกับการสูบน้ำ แต่ 36 ชั่วโมงต่อมา ตัวแทนของฝ่ายไทยเข้ามาหารือและมีมติสุดท้ายให้นำตัวผู้ประสบภัย ดำน้ำออกจากถ้ำ ซึ่งสแตนตันยืนยันว่า เป็นที่เลือกเดียวที่มีอยู่ สแตนตัน กล่าวว่า การนำตัวผู้ประสบภัยออกจากเนินนมสาว มายังโถง 3 เป็นแบบหนึ่ง ต่อหนึ่ง โดยลำดับการดำน้ำใน 2 วันแรก เริ่มจากเจสัน มัลลินสัน ตามด้วยจอห์น โวลันเธน, คริส จีเวลล์ และปิดท้ายด้วย สแตนตัน สแตนตัน เล่าว่า เขารออยู่ที่จุดพักแรกด้วยความลุ้นระทึก เมื่อมัลลินสัน นำเด็กมาถึง เขาตรวจร่างกายของเด็ก โดยเฉพาะการหายใจเพื่อประเมินว่าสมควรให้ภารกิจเดินหน้า ต่อไปหรือไม่ เมื่อพบว่าเด็กยังคงหายใจและยังมีสติอยู่บ้าง ซึ่งเป็นผลจากการได้รับยา ทีมงานตัดสินใจเดินหน้าภารกิจต่อไป โดยนักดำน้ำใช้เวลาประมาณ 30 นาที ในการ ลำเลียงผู้ประสบภัย ผ่านอุโมงค์น้ำมายังจุดพักแต่ละแห่ง ก่อนถึงโถง 3 ซึ่งจะนำขึ้นเปล เมื่อเด็กคนแรกถึงโถง 3 สแตนตัน แจ้งกลับไปยังบีซีอาร์ซี ทันทีว่า เด็กคนที่ 1 อยู่ในโถง 3 ยังมีชีวิตอยู่